`ตลาดสุขใจ` คว้ารางวัลตลาดนัดน่าซื้อ
กรมอนามัยการันตีคุณค่า และคุณภาพอาหารปลอดภัย 'ตลาดสุขใจ' ตลาดนัดน่าซื้อ
เพราะความมั่นใจของผู้บริโภคเรื่องอาหารปลอดภัยนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญ รางวัล "ตลาดนัดน่าซื้อระดับดีมากของประเทศ" ประจำปี 2558 ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ได้มอบให้ "ตลาดสุขใจ" เมื่อเร็วๆ นี้ จึงเป็นเครื่องหมายการรันตีคุณค่าและคุณภาพของ "ตลาดสุขใจ" ซึ่งเป็นตลาดอาหารปลอดภัย ที่เลื่องชื่อของ อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้เป็นอย่างดี
แม้จะเปิดให้บริการมาได้เพียง 5 ปี แต่ตลาดสุขใจ ในวันนี้ยืนอยู่อย่างมั่นคง ด้วยแนวคิด พืชผักอินทรีย์ สดจากไร่ เก็บใหม่จากสวน ราคาไม่แพง ขายตรงจากเกษตรกร ก็กลายที่เป็นรู้จักของคนรักษ์สุขภาพในวงกว้าง ต่างพากันแวะเวียนเข้าเลือกซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรมากกว่าวันละ 1,000 คน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ด้วยจุดเด่นของตลาดแห่งนี้ เน้นให้ความสำคัญเรื่องที่มาของอาหารปลอดภัย โดยเฉพาะพืช ผัก ผลไม้ และข้าว ซึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรที่ทำระบบอินทรีย์ภายใต้การรับรองมาตรฐานอินทรีย์สากล หรือ IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements) และการรับรองแบบมีส่วนร่วม (PGS) ขณะที่สินค้าประเภทเนื้อสัตว์ อาทิ หมู ไก่ อาหารทะเล มีการคัดเลือกอย่างเคร่งครัด โดยคณะกรรมการต้องตามไปดูถึงแหล่งที่มา กระบวนการ รวมถึงวิธีการเลี้ยงต่างๆ อย่างเข้มงวด
ขณะเดียวกันมีทีมนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสังคมสุขใจ สุ่มตรวจการปนเปื้อนของอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น จนก่อให้เกิดการประชาสัมพันธ์ บอกต่อไปยังเพื่อนๆ และญาติมิตร ทำให้ทุกสัปดาห์บรรยากาศในตลาดแห่งนี้คลาคล่ำไปด้วยบรรดาคณะนักท่องเที่ยวจากกลุ่ม องค์กร เครือข่ายสังคมต่างๆ ตลอดจนกลุ่มครอบครัว จูงลูกหลานมาเดินซื้อพืชผัก ผลไม้ และมานั่งรับประทานอาหารที่ตลาดสุขใจกันอย่างคึกคัก
สำหรับจุดเริ่มต้นของ ตลาดสุขใจ นายอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน ได้พัฒนาพื้นที่กว่า 2 ไร่ ให้เป็นตลาดสุขใจ กล่าวว่า เป็นการต่อยอดโครงการสามพรานโมเดล ภายใต้การสนับสนุน ของสำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จในขั้นแรก ในการเปลี่ยนความคิดของเกษตรกรในพื้นที่ อ.สามพราน จำนวนหนึ่งให้หยุดทำเกษตรแบบใช้สารเคมี มาทำเกษตรวิถีดั้งเดิมคือไม่ใช้สารเคมี หรือที่เรียกว่าเกษตรอินทรีย์ แต่ก็ประสบปัญหาที่ตามมาคือไม่มีตลาดรองรับ จึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่จอดรถกว่า 2 ไร่ ติดถนนเพชรเกษม ด้านหน้าโรงแรม ในสวนสามพราน มาทำตลาดเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรในโครงการได้จำหน่ายผลผลิต ทำให้ผู้บริโภคได้พืชผักอินทรีย์ในราคาถูก ขณะที่เกษตรกรก็ไม่ต้องหักรายได้ให้พ่อค้าคนกลาง
ด้านนายสุทิศ จิราวุฒิพงศ์ รองผู้จัดการโครงการสามพรานโมเดล บอกว่า เป้าหมายของการทำตลาดแห่งนี้คืออยากให้เกษตรกรในตลาดได้พัฒนาตนเองในการทำเกษตรอินทรีย์จนได้รับมาตรฐานสากล ซึ่งการทำเกษตรอินทรีย์นั้นจะช่วยเกษตรกรลดต้นทุน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น สามารถช่วยปลดหนี้สิน และในขณะเดียวกันสุขภาพและสังคมก็ดีขึ้นด้วย เพราะไม่ได้ใช้สารเคมี สามารถสร้างสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับรางวัลตลาดนัดน่าซื้อระดับดีมาก กระบวนการคัดเลือกเข้มทีเดียว นอกจากผักสด ผลไม้ที่ปลอดสารเคมีแล้ว อย่างอาหารแปรรูปต้องผ่านการตรวจสุขลักษณะจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหาร ต้องไม่ปนเปื้อนสารบอแรกซ์ ไม่มีสารเร่งเนื้อแดง ไม่ใช้สารฟอกขาว ไม่มีเชื้อราปนเปื้อนในประเภทอาหารหมักดอง และต้องไม่มีสารฟอร์มาลินตกค้าง เช่นเดียวกับอาหารแปรรูปที่ผลิตจากกลุ่มแม่บ้านต้องได้รับรองมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
"หัวใจสำคัญของการจัดการแห่งนี้ นอกจากสินค้าที่ผ่านการคัดสรรแล้ว ผู้ค้าเองต้องเป็นผู้ผลิตโดยตรง ไม่มีสินค้าที่ซื้อมาขาย ไม่มีระบบพ่อค้าคนกลาง เพราะต้องการเชื่อมสัมพันธ์ ก่อให้เกิดเรื่องเล่าระหว่างคนขายกับคนซื้อ อย่างฝรั่งอินทรีย์เป็นสินค้าขายดีของที่นี่ กรรมวิธีผลิตจากอินทรีย์ทำให้ผลไม้ลูกบิดเบี้ยว แต่เมื่อเกิดการพูดคุยทำให้ลูกค้ามั่นใจ หรือสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวชมสวนได้ด้วย ขณะที่การบริหารจัดการของตลาดมีการดึงเกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งแม่ค้าด้วยกันเอง จะทำหน้าที่ช่วยกันตรวจสอบคุณภาพ และคัดเลือกผู้มาค้าขายด้วย" นายสุทิศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับสินค้าที่ควรซื้อกลับไปเมื่อมาถึงตลาดสุขใจ ก็คือผักพื้นบ้านที่อุดมคุณคุณค่าและสารอาหาร เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือ พริก ขิงข่า ตะไคร้ ผักบุ้ง มะนาว ไผ่ตงลืมแล้ง ที่มีผลผลิตทั้งปี นอกจากนี้ยังมีผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น ฝรั่ง ส้มโอ กล้วยน้ำว้า มะเฟือง มะพร้าวน้ำหอม ตลอดจนข้าวสารอินทรีย์หลากหลายชนิด
ส่วนสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ที่กำลังขึ้นชื่อของตลาดสุขใจคือ ไก่ตะเภาทอง ที่เกิดจากผลงานวิจัยของ อ.สุชาติ สงวนพันธุ์ จากภาควิชาสัตวบาล ม.เกษตรศาสตร์ เป็นไก่พื้นบ้านพันธุ์ตะเภาทอง มาผสมกับไก่พื้นเมืองจีน ชื่อว่าไก่สามเหลือง (ซาอึ้ง) ทำให้ไก่ที่ได้มีเนื้อนุ่ม รสชาติดี เพราะเลี้ยงแบบธรรมชาติ ใช้เวลาเลี้ยงนาน 4-5 เดือน ไม่ใช้วัคซีนและสารเร่งโต รวมถึงหมูหลุมจากราชบุรี ที่เน้นการเลี้ยงหมูให้มีความสุข ไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดง และไม่ฉีดวัคซีนในตัวหมู แต่ใช้สมุนไพรแทนเมื่อหมูเกิดโรค รวมทั้งการใช้น้ำหมักชีวภาพในการกำจัดกลิ่นในคอกหมู
ในส่วนร้านอาหารแปรรูปนั้นมีทั้งร้านอาหารยอดนิยม ผัดไทย ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง กล้วยปิ้ง บ้าปิ่น ขนมจีน ขนมไทยอีกหลากหลายชนิด
อีกทั้งบรรยากาศตลาดสุขใจเน้นความอบอุ่น สบายๆ ภายใต้โรงเรือนที่หลังคามุงด้วยแฝก มีร้านค้าทั้งหมด 60 แผง และเป็นตลาดปลอดโฟม เน้นการใช้ไม้กลัด ถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ ในร้านที่ผลผลิตผ่านมาตรฐานอินทรีย์ เกษตรกรจะนำใบรับรองมาวางที่หน้าร้าน ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น
ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ที่มีทั้งลูกค้าประจำ และลูกค้าใหม่แวะมาซื้อมาทักทาย ถามไถ่เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้ตลาดสุขใจ ซึ่งใช้หุ่นฟางใส่เสื่อม่อฮ่อมสีน้ำเงิน ผูกผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์ ในวันนี้เป็นมากกว่าตลาดขายพืชผักอาหารปลอดภัย แต่มากด้วยเรื่องราววิถีชีวิต เป็นแหล่งพบปะของคนรักษ์สุขภาพ ที่มาแล้วมาอีก สร้างความสุขใจ ให้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ตลาดสุขใจตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านหน้าของสวนสามพราน ติดถนนเพชรเกษม อ.สามพราน จ.นครปฐม เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น.
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง