ตร.งัด 10 มาตรการเข้มรับสงกรานต์
ที่มา : คมชัดลึก
แฟ้มภาพ
ผบ.ตร.สั่งรับมือเทศกาลสงกรานต์ 11-17 เม.ย. งัดมาตรการ "1ร 2ส 3ข 4ม" ไม่ห้ามโดยสารท้ายกระบะแต่ห้ามนั่งห้อยขา-ดื่มสุรา เตือนห้ามแต่งหวิว
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ในฐานะโฆษก ตร. แถลงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การให้บริการและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการเดินทางของประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2561 ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุดให้ทุกหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศ กำชับมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ การให้บริการประชาชน มาตรการความปลอดภัย ตลอดจนมาตรการด้านป้องกันปรามปราบอาชญากรรม เริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
“วันนี้เป็นวันแรกในการกวดขันมาตรการต่างๆ โดยจะยกระดับการปฏิบัติงานเข้มข้นตามลำดับ กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดกฎจราจรในข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักต่อการเกิดอุบัติเหตุ ใช้มาตรการ “1ร 2ส 3ข 4ม” ประกอบด้วย 1 ร คือห้ามขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 2 ส คือ ห้ามขับรถย้อนศร และฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3 ข คือ ห้ามขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาต ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ และแซงในที่คับขัน และ 4 ม คือห้ามเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว
รองผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมและโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจว่า ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ซึ่งจะมีการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม และประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนฝากบ้านกับตำรวจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการดูแลความปลอดภัย มาตรการควบคุมการจำหน่ายสุรา ทุกมาตรการคาดหวังให้ยอดอุบัติเหตุ เสียชีวิต ลดลงให้น้อยที่สุด พร้อมกันนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการเปิดจุดเพื่อให้บริการพักรถกับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา บริการห้องน้ำ บริการน้ำดื่ม ตามจุดต่างๆ ด้วย
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช้อุปกรณ์เล่นน้ำในลักษณะอันตราย ไม่แต่งกายล่อแหลม พร้อมรณรงค์ให้ใส่ผ้าไทย ผ้าพื้นเมืองหรือผ้าลายดอก เพื่ออนุรักษ์ประเพณีไทย พร้อมกับเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมชอบลวนลาม กระทำการลามกอนาจาร จะมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ ส่วนการนั่งท้ายกระบะเล่นน้ำสงกรานต์จะมีการพิจารณาและกำหนดเป็นโซนๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก” พล.ต.อ.วิระชัยระบุ
ทั้งนี้ หากจำหน่ายสุราให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี หรือบุคคลที่เมาจนครองสติไม่ได้ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ มีอัตราโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 2 หมื่น ถึง 1 แสนบาท รวมทั้งพักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอน ในส่วนของการทำอนาจาร ลวนลาม เช่นจับหน้าอก รั้งตัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการนั่งท้ายรถกระบะกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัดนั้น โฆษกตำรวจกล่าวว่า เรื่องนี้มอบให้เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงาน คอยตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ถ้ากรณีไหนเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงก็ต้องมีการตักเตือน แต่หากพบว่ามีประชาชนนั่งท้ายกระบะแล้วมีการดื่มสุรา หรือหย่อนขาขณะรถวิ่ง กรณีนี้ต้องมีความผิดแน่นอน อย่ากระทำเด็ดขาด เพราะเป็นอันตราย
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ต้อนรับนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม และคณะ ที่เข้าพบเพื่อรณรงค์เนื่องในประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2561 “สงกรานต์วิถีไทยใช้น้ำคุ้มค่า ชีวาปลอดภัย” และนายกฯ ได้สรงน้ำพระพุทธชินราช โดยนายวีระได้มอบชุดรดน้ำขอพรให้นายกฯ และคณะรัฐมนตรี
พร้อมกันนี้นายกฯ ยังได้เขียนคำอวยพรในการ์ดอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2561 ขออวยพรให้ประชาชนคนไทยทุกคนประสบแต่ความสุข สำเร็จ สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยตลอดไป ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ปรับตัวเองให้รู้เท่าทันเทคโนโลยี สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศของเราและสถานการณ์โลกในปัจจุบันและถือว่าเป็นสวัสดีปีใหม่ของคนไทย ขอให้มีความสุขความเจริญตลอดไป
ด้านนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติกำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน 2561 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน โดยเป็นวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ รวม 5 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2561 เพื่อให้ลูกจ้างได้มีวันหยุดต่อเนื่อง และมีโอกาสได้เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว และร่วมกิจกรรมตามประเพณีนิยม ทางนายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดี กสร. ได้ลงนามในประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขอความร่วมมือให้นายจ้าง สถานประกอบกิจการ พิจารณาจัดให้ลูกจ้างได้หยุดงานต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2561
“นอกจากนี้ยังขอให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้าง ซึ่งทำหน้าที่ขับขี่ยานพาหนะทำงานไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง แต่หากจะให้ทำงานล่วงเวลาต้องไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกจ้าง และห้ามเริ่มต้นทำงานในวันถัดไปก่อนครบ 10 ชั่วโมง และที่สำคัญขอให้ลูกจ้างทุกคนใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะเดินทาง ขอให้วางแผนการเดินทางไปกลับเพื่อความสะดวกและปลอดภัย” นายทศพล กล่าว