ตรวจภายในปีละครั้ง ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

หากอาการยังไม่ลุกลาม โอกาสหาย 90%

 

 ตรวจภายในปีละครั้ง ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

          ปัจจุบัน โรคมะเร็งปากมดลูก ถือเป็นภัยร้ายสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะสลับกันครองแชมป์อันดับ 1 กับ มะเร็งเต้านม มีข้อมูลทางการแพทย์ที่น่าตกใจไม่น้อยว่า แต่ละวันจะมีผู้หญิงไทย 7 คน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย และที่น่าห่วงคือปัจจุบันมีผู้หญิงไทยเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 6,000 คนต่อปี ส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยประมาณ 45 ปี

 

          พญ.สุขุมาลย์ สว่างวารี ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวช (gynecologist) สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หญิงไทยมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าว

 

          ส่วนใหญ่มีความอายที่จะไปตรวจภายใน หรือเช็คร่างกายประจำปี พอไปตรวจก็เป็นระยะลุกลามแล้ว ยิ่งผู้หญิงที่อยู่ในชนบทห่างไกล ไม่ได้รับการบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น

 

          คนไข้ที่มีอาการแล้วมาหาหมอ ส่วนใหญ่จะมีช่วงอายุ 35-40 ปีและอีกกลุ่มคือช่วงอายุ 50-60 ปี ส่วนคนที่มาตรวจประจำปีมักจะเป็นคนวัยทำงาน หรือมีครอบครัวแล้วมากกว่า ในการรักษาต้องประเมินตามอาการของโรค ส่วนคนที่อาการลุกลามแล้ว หลักๆ ก็จะรักษาด้วยการฉายแสง โอกาสหายก็อยู่ที่ระยะของโรคเช่นกัน บางคนที่มาตรวจเพิ่งมีอาการ ยังไม่ลุกลามไปที่อื่น ก็มีโอกาสหาย 90%

 

          สำหรับผู้ที่มีอาการผิดปกติและควรรีบมาหาหมอโดยด่วน สังเกตได้จากอาการเหล่านี้คือ มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดกะปริดกะปรอยระหว่างมีรอบเดือน แต่บางทีถ้ารอจนมีอาการมันก็สายเกินไปแล้ว นั่นหมายถึงมีก้อนเนื้องอกออกมาแล้ว การตรวจมะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจได้ตั้งแต่เซลล์เริ่มเปลี่ยนยังไม่เป็นมะเร็ง และรักษาไม่ให้เป็นมะเร็งได้ จะไม่มีอาการเลย

 

          ส่วนสาวโสดหรือผู้ที่ยังไม่มีครอบครัว ก็อย่าคิดว่าตนเองจะปลอดโรคมะเร็งปากมดลูกซะทีเดียวคุณหมอสุขุมาลย์ เตือนว่ามีสตรีกลุ่มนี้โอกาสเป็นโรคเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรือทานยาฮอร์โมนนานๆ ติดต่อกัน จึงควรตรวจเพื่อความแน่ใจ อย่างเมืองนอกได้มีการรณรงค์ให้ผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ มาตรวจภายในตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป จึงอยากแนะนำให้หญิงไทยมีการตรวจทุกปี

 

          แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ เช่น ไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน ไม่เคยมีการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกผิดปกติมาก่อน และได้รับการตรวจติดต่อกัน 3 ปีแล้วปกติ ก็สามารถเว้นได้อีก 3 ปี ปัจจุบันแพทย์มีวิธีการตรวจหาเชื้อก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นวิธีตรวจเพิ่มจากการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ถ้าตรวจพร้อมกันแล้วมีผลปกติทั้งคู่ ก็เว้นได้ 3 ปีเหมือนกัน

 

          การป้องกันเบื้องต้น คือ ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส, มีคู่นอนน้อยคน, ลดการเที่ยวสัมผัสทางเพศ, งดการสูบบุหรี่ก็ช่วยได้ และในกรณีที่ต้องการคุมกำเนิดในระยะยาว อาจเลือกวิธีอื่นแทนการทานยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน

 

          อยากฝากถึงผู้หญิงไทยทุกคนว่า การดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากมะเร็งปากมดลูกนั้น นอกจากลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างที่กล่าวไปแล้ว การฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ก็ได้ผลจริงๆ จากการวิจัย และที่สำคัญคือ ไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือ แปบสเมียร์ ไม่ต้องอายเพราะเราสามารถเลือกตรวจกับหมอผู้หญิงได้ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จแล้วไม่น่ากลัวอะไร

 

          นอกจากนี้คุณหมอได้พูดถึงวัคซีนป้องกันมะเร็งมดลูกว่าปัจจุบันเรามีการนำเข้าวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และมีการรณรงค์ในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตามโรงพยาบาลทั้งของรัฐบาลและเอกชน รวมทั้งในกลุ่มของโรงเรียนแพทย์ แต่ผู้ใช้บริการฉีดวัคซีนยังคงอยู่ในกลุ่มสตรีที่มีรายได้ค่อนข้างดีอยู่ เพราะมีราคาค่อนข้างแพงราคา 3 เข็มจะอยู่ประมาณ 14,000-16,000 บาท การฉีดวัคซีนนั้นควรได้รับตั้งแต่อายุ 9 ถึง 26 ปี ควรฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง เมื่อฉีดเข็มแรกแล้วเว้นระยะห่าง 2 เดือนจึงค่อยฉีดเข็มที่ 2 แล้วเว้นไปอีก 4 เดือนค่อยฉีดเข็มที่ 3 ซึ่งจะเห็นว่าคำแนะนำสำหรับการฉีดวัคซีนนี้จะแนะนำสำหรับผู้หญิงที่อายุยังน้อยซึ่งจะได้ผลดีที่สุด

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

update 08-01-52

 

Shares:
QR Code :
QR Code