ดึงตลาดสดงดเหล้าเข้าพรรษา
กทม.-สสส. ปิ๊งไอเดีย ดึงตลาดสด ชวนผู้ค้า ประชาชน “ปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา”ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง “รองผู้ว่าฯ” แจงตลาดสดในกรุงเทพฯ นำร่องแล้ว 17 แห่ง ตั้งเป้าปีหน้าขยายเพิ่มอีก 29 แห่ง เผยผลสำรวจ คนกรุง 94.89% เห็นด้วยกับกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา ชี้นักดื่ม 45.58% ต้องการงดดื่มทุกปี “ทพ.กฤษดา” ระบุ แนวโน้มคนไทยจ่ายค่าเหล้าน้อยลง ตั้งเป้านักดื่มไทยงดเหล้าตลอดช่วงเข้าพรรษา 50%
วันนี้ ( 5 ก.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ “ตลาดสดชวนงดเหล้าเข้าพรรษา รวมพลังทำความดีถวายในหลวง” พร้อมมอบใบปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา และสื่อรณรงค์ให้กับ “17 ตลาดสดระดับเพชร” โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ทั้งนี้ ภายในงานมีการแสดงละครเร่ ชวนงดเหล้าเข้าพรรษา จากเครือข่ายละครรณรงค์งดเหล้า
โดย พญ.มาลินี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการทำงานร่วมกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อาทิ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาตลอดทั้ง 3 เดือน (วันที่ 16 ก.ค. – 12 ต.ค. 2554) เป็นจุดเริ่มต้นทำความดี โดยเชื่อว่ายังมีชาวกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยที่ต้องการงดเหล้าเข้าพรรษา จากข้อมูลศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ร่วมกับศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่องการงดเหล้าเข้าพรรษาของคนกรุงเทพฯ อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 630 คน ระหว่าง พ.ย. 2553-ม.ค. 2554 พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ดื่มร้อยละ 37.1 และไม่ดื่มร้อยละ 45.6 เห็นด้วยและเห็นด้วยอย่างยิ่งกับโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาถึง ร้อยละ 94.9 โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มอยู่ พบว่าร้อยละ 45.6 ตั้งใจจะงดดื่มเป็นประจำทุกปี ส่วนร้อยละ 34.6 ไม่ต้องการงดดื่ม และร้อยละ 18.4 ต้องการงดเป็นบางปี ส่วนเหตุผลที่จะงดดื่ม ส่วนใหญ่บอกว่า ตั้งใจจะงดด้วยตัวเองร้อยละ 26.7 ภรรยาให้งดดื่มร้อยละ 18.3 งดดื่มตามเพื่อนร้อยละ 15.3 งดดื่มตามญาติ พี่น้องร้อยละ 13 และงดดื่มตามคำชักชวนของลูกร้อยละ 12.2
“ขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมกันงดเหล้าเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน ละเว้นอบายมุข สิ่งมึนเมาที่ทำลายสุขภาพ โดยความดีครั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2554 กิจกรรมในครั้งนี้ จะมีการตั้งจุดปฏิญาณตนงดเหล้าในตลาดสดนำร่อง 17 แห่ง ที่ถือเป็นตลาดสดระดับเพชร และตั้งเป้าว่าภายในปีหน้าจะมีตลาดระดับทองเพิ่มขึ้นอีก 29 แห่ง ซึ่งผ่านเกณฑ์ตลาดสะอาดที่ได้มาตรฐานของสำนักอนามัย กทม. นอกจากนี้ยังพร้อมส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบำบัดยาเสพติดฯ ลงพื้นที่ให้บริการตรวจคัดกรอง ผู้ที่มีแนวโน้มหรือเข้าข่ายติดสุรา และให้คำปรึกษาในการงดดื่มเหล้า และยังมีกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ ภายในตลาดสดอีกด้วย” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 มีประชาชนเข้าร่วมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ข้อมูลจากเอแบคโพลล์ ปี 2553 มีคนไทยระบุว่าต้องการงดเหล้าช่วงเข้าพรรษาร้อยละ 55.1 แบ่งเป็น ต้องการงดดื่มตลอด 3 เดือนร้อยละ 36.3 และต้องการงดดื่มเป็นบางช่วงร้อยละ 18.8 ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงประมาณ 34,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่มีคนไทยระบุว่าต้องการงดเหล้าช่วงเข้าพรรษาร้อยละ 46.4 ลดค่าใช้จ่ายได้ 27,000 ล้านบาท สอดคล้องกับข้อมูลสำนักงานบัญชีประชาชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2553 ระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยมีแนวโน้มลดลง อยู่ที่ 139,337 ล้านบาท ลดจากปีก่อน ที่มีมูลค่า 154,998 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยที่เกิดจากการดื่มของมึนเมา และประหยัดค่าจ่ายได้ ทั้งนี้ ในปีนี้ ตั้งเป้าจะมีผู้ร่วมงดดื่มตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน เพิ่มเป็นร้อยละ 50
“จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2550 ระบุว่า ความชุกของผู้ที่ดื่มในอายุ 15 ปีขึ้นไป อยู่ที่ร้อยละ 21.2 หรือ 1,217,808 ราย ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งต้องเน้นการรับรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนให้มีบทบาทสำคัญในการชวนเพื่อนเลิกเหล้า โดยปฏิญาณตนว่าจะงดเหล้าเข้าพรรษาและงดดื่มตลอดชีวิต ดังนั้นการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาในตลาดนำร่อง 17 แห่งในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ จึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่ให้พ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยสามารถเข้าถึงเกิดการรับรู้ได้ง่าย นำไปสู่จุดเปลี่ยนของการลด ละ เลิกเหล้า ทั้งนี้ ขอขอบคุณ กทม. และภาคีเครือข่าย เห็นถึงความสำคัญปัญหาที่เกิดขึ้น และได้ร่วมมือขับเคลื่อนและสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ส่งผลดีต่อส่วนรวม”ทพ.กฤษดา กล่าว
สำหรับรายชื่อตลาดที่เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้ 1.ตลาดประชานิเวศน์ สังกัดสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร 2.ตลาดอ่อนนุช เขตวัฒนา 3.ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน 4.ตลาดถนอมมิตร เขตบางเขน 5.ตลาดองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) เขตจตุจักร 6.ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี เขตมีนบุรี 7.ตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย 8.ตลาดสามย่าน เขตปทุมวัน 9.ตลาดใหม่ทุ่งครุ เขตทุ่งครุ 10.ตลาดเจริญพรผล เขตบางพลัด 11.ตลาดกลางแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ 12.ตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง 13.ตลาดเสรี มาร์เก็ต เขตประเวศ 14.ตลาดลานบุญ เขตลาดกระบัง 15.ตลาดสายเนตร เขตคันนายาว 16.ตลาดวัฒนานันท์ เขตดอนเมือง และ17.ตลาดพิบูลย์วิทย์ เขตจอมทอง
ที่มา : สำนักข่าว สสส.