ดันศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็น ‘ศูนย์ต้นแบบด้านปฐมวัย’
อปท.ลุยผลักดันศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นศูนย์เรียนรู้และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านปฐมวัยชี้รากฐานของชาติคือ ปฐมวัย โดยมี ศพด. เป็นมือแรกที่ลงสีบนผ้าขาว…
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมกับสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานและจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมศักยภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาเด็กปฐมวัย จำนวน 23 ศูนย์ 23 จังหวัด ตลอดระยะเวลา 1 ปี และชวนคิด กำหนดทิศทางความพร้อมในการเป็นศูนย์เรียนรู้และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านปฐมวัย ที่โรงแรมภูเขางามพาโนรามา อ.เมือง จ.นครนายก
โดย นางยิษฐา แว่วศรี ผู้อำนวยการสำนักประสานและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า ขอชื่นชมความสามารถและศักยภาพในการจัดการศึกษาของ ศพด. ทั้ง 23 แห่ง จาก ศพด.กว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ ที่อยู่ในการดูแลของ อปท. หากเทียบเป็นสัดส่วนยังน้อยอยู่มาก จึงถือว่าเป็นตัวแทนนำร่องการพัฒนาให้เป็นต้นแบบ ซึ่งต้องอาศัยขั้นตอน กระบวนการ ผ่านการลองผิดลองถูก และการประสานความร่วมมือในการดำเนินงานหลายอย่าง ด้วยความคาดหวังของ อปท. ต้องการให้ ศพด.พัฒนาไปด้วยกัน แต่การพัฒนาไปด้วยกันจะต้องมีองค์ประกอบในด้านศักยภาพของผู้บริหาร ชุมชน ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งศักยภาพของแต่ละคนก็ต่างกัน ดังนั้น ทุกคนจึงควรภูมิใจที่สามารถเป็นต้นแบบได้ และขอให้ ศพด. ชุมชน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ความตระหนักในสิ่งที่เป็นตัวแทนรักษาคุณภาพเพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้เพื่อนๆ น้องๆ มาศึกษาดูงาน
"กรมฯ พยายามขยายผลให้มีศูนย์ต้นแบบมากขึ้น ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกับกรมฯ ช่วยกันขยายผลออกไปให้มีมาตรฐานเหมือนกัน เพราะเมื่อพูดถึง ศพด.ในฐานะลงเรือลำเดียวกันแล้ว จึงต้องพยายามให้ ศพด.มีมาตรฐาน หากศูนย์ใดยังไม่ได้มาตรฐานก็ต้องให้ศูนย์ที่มีมาตรฐานไปเป็นพี่เลี้ยง เปิดใจกว้างเพื่อนช่วยเพื่อน ถือระบบความสมานฉันท์ ซึ่งแน่ใจว่าครูผู้ดูแลเด็กเล็กของ ศพด.ทุกคนมีเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ครูเป็นอาชีพที่มีบุญกับเด็กส่วนรวมและประเทศ ทุกคนต้องมีจิตวิญญาณความเป็นครู เพราะครูที่ดีคือครูที่รักเด็ก หากเปรียบเด็กเป็นผ้าขาว ครูผู้ดูแลเด็กจึงเป็นครูคนแรกที่วาดภาพลงสีให้บรรเจิดอย่างไรก็ได้ เป็นผู้ฝังรากลึกสิ่งต่างๆ ด้วยการจัดกิจกรรม อบรมเด็กที่ต้องเน้นความเป็นคนดี มีศีลธรรม มีสุขภาพกาย ให้เป็นเด็กที่สะอาดตั้งแต่วัยเด็กเล็ก เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีสู่สังคม จงภูมิใจและรักษาความดีเหล่านี้ไว้" นางยิษฐา กล่าว
ด้าน ดร.เสาวคนธ์ จันทร์ผ่องศรี ศึกษานิเทศก์ เทศบาลเมืองชลบุรี และคณะทำงานวิชาการ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากการรายงานผลการดำเนินงาน 1 ปี ได้บทเรียนที่กระชับ รัดกุม ง่ายต่อการเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติตามได้ จึงเป็นการพัฒนาแบบไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนภูมิใจที่ได้ทำงาน เห็นคุณค่างานที่ได้ปฏิบัติ เพราะฐานที่ดีในการทำงานต้องเริ่มจากการศึกษา ซึ่งเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ การทำงานกับเด็กเล็กเหน็ดเหนื่อย เอาลูกเขามาเลี้ยง หย่านมก็มาสู่ครูพี่เลี้ยง ดังนั้น ครูผู้ดูแลเด็กจึงต้องทำให้เด็กมีความสุข มีพัฒนาการ รอบรู้ในทุกด้าน และสิ่งสำคัญต้องนำระบบการพัฒนาเข้ามาใช้
"ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะ ศพด.คือรากฐานการศึกษา คือแกนนำของพื้นที่ ผมเชื่อมั่นในความรู้ ความสามารถ ความตั้งใจของผู้บริหารท้องถิ่น การทำงานเป็นกระบวนการจะทำให้สามารถมองภาพงานออกจะไม่ยาก และอย่าลืมว่าเรามีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 20,000 แห่ง บางศูนย์มีครูแค่ 2 คน ซึ่งต้องเข้าไปช่วย เพราะการศึกษาต้องพัฒนาแบบยกระดับไปด้วยกัน ไม่ทอดทิ้งกัน แต่อยู่ที่ทุกคนว่าจะนำองค์ความรู้มาพัฒนาให้เกิดคุณภาพได้อย่างไร อีกทั้งขณะนี้ มีองค์กร หน่วยงานที่ลงมาทำงานกับ ศพด.จำนวนมาก ทำให้มีภาระงานทั้งงานปกติและงานพิเศษเยอะมาก ดังนั้น หัวหน้าศูนย์ ต้องเป็นผู้นำขับเคลื่อนให้ครูพี่เลี้ยง ผู้ปฏิบัติงานสร้างจุดแข็งรับมือให้ได้ อย่ารอผู้บริหารสั่ง ไม่สั่งไม่ทำ ซึ่งไม่ใช่บริบทของการทำงาน แต่หากมีความพร้อมมีการเตรียมการอยู่เสมอจะไม่ถูกกดดัน จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่น และ ศพด.ในการพัฒนาเด็กให้เป็นคนดีของสังคมและทำให้เด็กรักท้องถิ่น ไม่หนีบ้านเกิด จะช่วยลดปัญหาสังคมได้มาก" นายวีระชาติ ทศรัตน์ ผอ.ส่วนส่งเสริมการศึกษานอกระบบฯ กล่าว
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต