‘ช้าแต่ชัวร์’ ขับขี่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง
เรื่องโดย ชมนภัส วังอินทร์ team content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลบางส่วนจาก: จดหมายข่าว เครือข่ายลดอุบัติเหตุ ฉบับวันที่ 3 เดือนกันยายน-ธันวาคม พ.ศ.2561
ภาพประกอบโดย ณัฐพร ชุ่มลือ Team Content www.thaihealth.or.th /แฟ้มภาพ
รู้หรือไม่ ? อุบัติเหตุจากการขับขี่ด้วยความเร็วมีแรงปะทะที่ทำให้เกิดความสูญเสียมากมาย ลองนึกภาพตามหากคุณขับรถในระดับความเร็ว100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แรงปะทะจะเท่ากับคุณตกตึก 13 ชั้น จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ที่องค์กรต่างๆ ออกมาช่วยกันรณรงค์ให้ขับขี่ปลอดภัยเพราะ “ยิ่งขับเร็ว ยิ่งเกิดความสูญเสียมากขึ้น”
ซึ่ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่พยายามเน้นย้ำเสมอว่า การขับขี่ให้ปลอดภัย คือ ผู้ขับขี่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการปฏิบัติตามกฎจราจร เมาไม่ขับ ลดความเร็ว เพราะการจะหยุดอุบัติเหตุนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ต่อให้ถนนมีโครงสร้างที่ดีเพียงใด รถอยู่สภาพพร้อมแค่ไหน ก็ยากที่จะหยุดอุบัติเหตุได้ โดยพื้นฐานของการขับขี่ในระดับความเร็วที่ปลอดภัยมีดังนี้ ในเขตเมืองและชุมชน ไม่ควรเกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกเขตเมืองไม่ควรเกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
โครงการรณรงค์ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ “Low Speed มีสิทธิ์รอด กลับบ้านปลอดภัย ปีใหม่ 2562” เป็นความร่วมมือระหว่าง สสส. สคอ. กรมควบคุมโรค สธ. และภาคีเครือข่าย เพื่อส่งมอบความห่วงใยและร่วมผลักดันนโยบายความปลอดภัยทางถนน รณรงค์ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร แก่ประชาชนทั่วประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่
จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เฉพาะในช่วง 7 วันอันตราย 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2559-2561) พบว่า มีผู้เสียชีวิตรวม 1,281 คน บาดเจ็บ 11,578 คน เกิดเหตุ 11,119 ครั้ง และรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุมาจากการ ‘ขับเร็วและดื่มแอลกอฮอล์’
ยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้เป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่นิยมเดินทางกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรค่อนข้างหนาแน่น ผู้คนต่างเร่งรีบที่จะไปให้ถึงที่หมายไวๆ แต่ลืมไปว่า การขับขี่อย่างรวดเร็วนั้น นอกจากจะเกินที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังส่งผลกระทบให้เกิดความสุญเสียที่เปลี่ยนความสนุกให้เป็นโศกนาฏกรรมได้ อีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ขับขี่ ลืมไม่ได้ คือ การขับขี่ที่ปลอดภัย ซึ่งมีข้อปฏิบัติ ดังนี้
1.ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หนึ่งสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุบนท้องถนน หากมีความจำเป็นต้องทำการติดต่อ แนะนำให้ใช้หูฟังหรืออุปกรณ์อื่นๆช่วย
2.ไม่ขับรถเร็วเกินไป จนลืมนึกถึงความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง
3.เปิดไฟให้สัญญาณ การส่งสัญญาณไฟขณะที่เบรก หรือเลี้ยว เป็นการสื่อสารกับผู้ขับขี่คนอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน
4.เมาไม่ขับ ห้ามดื่มแล้วขับรถเด็ดขาด หากมีอาการมึนเมายังมีอีกหลายวิธีที่สามารถทำได้ เช่น ให้เพื่อนช่วยขับรถ หรือใช้บริการแท็กซี่
5.คาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าคุณเดินทางควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งไม่ว่าจะระยะทางไกล หรือใกล้ก็ควรคาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ
6นำรถเข้าศูนย์ ควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะ และความปลอดภัยก่อนขับระยะทางไกล เช็คลมยางให้ดีก่อนออกเดินทาง
7.ขับรถเวลาที่เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ในตอนกลางคืนหรือตอนฝนตก แม้จะไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ แต่จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทยมักจะเกิดในช่วงเวลานี้ หากจำเป็นต้องออกข้างนอกควรขับรถอย่างระมัดระวัง
การเรียนรู้ศึกษาข้อปฏิบัติของกฎหมายจราจรและข้อควรระวัง จะสร้างระเบียบวินัยการขับขี่ให้ผู้ขับมีความรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้นการขับขี่ในแต่ละครั้งควรขับในความเร็วตามที่กฏหมายกำหนด อย่าประมาทเพราะความประมาทนำพาซึ่งความสูญเสียจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว