`ชุมชนเกาะขวาง` สร้างเยาวชน ห่างไกลยาเสพติด

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า


'ชุมชนเกาะขวาง' สร้างผู้เยาวชน ห่างไกลยาเสพติด thaihealth


'ชุมชนเกาะขวาง' ปลุกพลังเยาวชน สร้างภาวะผู้นำช่วยห่างไกลยาเสพติด


ด้วยความที่เป็นชุมชนใกล้เมือง ทำให้หลายๆ ชุมชน เผชิญกับปัญหาอันเนื่อง มาจากสิ่งเร้าของเมืองที่กระตุ้นให้สมาชิก โดยเฉพาะเยาวชนประพฤติในทางที่ไม่ เหมาะสมได้ โดยเฉพาะการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในชุมชนเมือง


อย่างเช่นที่บ้านเกาะตะเคียน ต.เกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี ชุมชนขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียงเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันมีประชากร 1,735 คน จำนวน 743 ครัวเรือน มีเยาวชนจำนวน 462 คน และเป็นเด็กอีก 40 คน โดยเด็กและเยาวชนเหล่านี้ถือเป็น กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะมีแนวโน้ม ในการใช้สารเสพติด ตลอดจนบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น


เหตุนี้ ชมรมเยาวชนอาสาตำบลเกาะขวาง Volunteer Club จึงเกิดขึ้น และได้จัดทำโครงการ "ปลุกพลังเยาวชนพันธุ์ใหม่…ป้องกันภัยยาเสพติดในชุมชนตำบลเกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี" เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายของเยาวชนในการป้องกัน ยาเสพติดในชุมชนอย่างจริงจัง ด้วยการใช้กีฬา มาและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เป็นเครื่องมือ รวมกลุ่มใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ก่อเกิดเป็นเครือข่ายเยาวชนทำดี โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)


อรุณ เกิดมงคล หรือคนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ "อาจารย์เหม่ง" ประธานชมรมเยาวชน อาสาตำบลเกาะขวาง Volunteer Club เปิดเผยว่า แนวโน้มการแพร่ระบาดยาเสพติด นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกลุ่มเสี่ยงก็ คือ กลุ่มเด็กและเยาวชนที่ต้องเฝ้าระวังร่วมกัน เพราะเด็กมีความอยากรู้อยากลอง ขาดการยั้งคิดส่งผลให้เยาวชนหลงผิดเข้าสู่วงจรของการซื้อ ขาย และเสพยาเสพติด และก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น การลักขโมย ฉกชิงวิ่งราว รวมไปถึงก่อปัญหาอาชญากรรม


อาจารย์เหม่ง เชื่อว่า การสร้างเด็กให้มีภูมิที่ดีเป็นเกราะป้องกันปัญหา ยาเสพติดได้ดีที่สุดผู้ใหญ่ต้องช่วยให้เด็กมีบทบาทในการร่วมพัฒนาชุมชน สร้างจิตสำนึก และส่งเสริมความเป็นผู้นำที่สำคัญต้องสร้างโอกาสในการแสดงออกหรือเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ และสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นแกนนำเยาวชนต่อไปได้


โครงการ "ปลุกพลังเยาวชนพันธุ์ใหม่…ป้องกันภัยยาเสพติดในชุมชนตำบลเกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี" มุ่งหวังส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รวมกลุ่มใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา ทำกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พี่สอนน้องตามโรงเรียนต่างๆ เป็นต้น ตลอดจนสามารถยกระดับเด็กและเยาวชนให้สามารถเป็นแกนนำจัดกระบวนการเรียนรู้ได้


โดยเริ่มต้นจากการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการโดยมีตัวแทนเยาวชนร่วมด้วย เพื่อสร้างการรับรู้และความมีส่วนร่วมของชุมชนในการขับเคลื่อนโครงการ จากนั้นก็ร่วมกันสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล จัดทำแผนที่ชุมชนและข้อมูลกลุ่มที่มีแนวโน้มเรื่อง ยาเสพติดในชุมชนโดยเครือข่ายเยาวชนและคืนข้อมูลให้ชุมชนได้รับทราบ และสุดท้ายคือการสร้างการเรียนรู้เรื่องยาเสพติด พร้อมทั้งค้นหาแกนนำเยาวชนเพื่อร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังและสนับสนุนกิจกรรมป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน


นอกจากนี้แล้วยังขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนในการขอเวลาว่างเพื่อเข้าไปจัดกิจกรรมให้ความรู้กับน้องๆ พร้อมทั้งมีกิจกรรมสันทนาการเน้นสร้างความสามัคคีในกลุ่ม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และรู้ถึงพิษภัยของยาเสพติด


"เรามีการผลิตสื่อทำคลิป ทำหนังสั้น ชี้ให้เห็นโทษของยาเสพติด สนับสนุนพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเยาวชนต่อเนื่องและการค้นหาแกนนำหรือต้นแบบการป้องกันยาเสพติด ช่วยกันทำลานกีฬาต้านยาเสพติด นักบอลพันธุ์ใหม่..ไม่สูบไม่ดื่ม ไม่พึ่งพายาเสพติดด้วย" อาจารย์เหม่ง บอก


อย่างไรก็ตาม อาจารย์เหม่ง ไม่ได้มุ่งหวังว่ากิจกรรมต่างๆ จะช่วยลดปัญหาหรือป้องกันยาเสพติดได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ต้องการให้เด็กและเยาวชนได้คิดเป็น และกระบวนการต่างๆ ที่ทำขึ้นจะช่วยสร้างความเป็นผู้นำให้เด็ก แล้วเด็กๆ จะไม่กล้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด


"ด้วยบทบาทความเป็นผู้นำที่อยู่ในตัวด้วย เขาก็จะหยุดขณะเดียวกันเรายังฟื้นความสัมพันธ์ของเด็กและผู้ใหญ่ในชุมชนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น" ประธานชมรม เยาวชนอาสาตำบลเกาะขวาง Volunteer Club กล่าว


จากเด็กที่ไม่เคยมีความเป็นผู้นำ ไม่กล้าคิด กล้าแสดงออก แต่วันนี้เด็กและเยาวชนตำบลเกาะขวางหลายคนที่ผ่านกระบวนการกิจกรรมต่างๆ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ น้องๆ ได้เอาเป็นแบบอย่างในการทำความดี


วัชรวาสน์ ท่องห่อ หรือ เพชร หนึ่งในเยาวชนแกนนำ กล่าวว่าแต่ก่อนมีนิสัยห้าวๆ ใจร้อนไม่ฟังใคร พูดจาห้วนๆ ทำตัวเก่งไปทุกอย่าง ทั้งเกเรเป็นหัวโจกของเพื่อนในแก๊ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อาจารย์เหม่งให้ขึ้นไปพูดหน้าเวทีโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ปรากฏว่าพูดไม่ออก อ้ำๆ อึ้งๆ สั่นกลัวไปหมด ทำให้ตนเริ่มคิดว่าที่เราเก่งเราแน่มันไม่ใช่เสมอไป และเพื่อนๆ หลายคนก็บอกไม่ชอบเรา หมั่นไส้ เรา ทำให้เริ่มคิดและปรับปรุงตัวขึ้น พอออกงานพูดหน้าเวทีบ่อยๆ ขึ้น ก็มีความกล้ามากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมได้ทำอีกหลายอย่าง ดีกว่าขลุกอยู่ที่ร้านเกมเหมือนแต่ก่อน


ขณะที่ ปานพิมพ์ ชัยดีเมธาพัฒน์ หรือน้องอีฟ กล่าวว่า ได้ทำกิจกรรมค่ายความรู้มีประโยชน์กับตัวเองอย่างมาก และได้พัฒนาตัวเอง ได้มุมมองใหม่ๆ มากขึ้น รู้จัก การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สร้างความมั่นใจให้ตัวเองเรียนรู้การปรับตัวเข้ากับผู้ใหญ่ และรู้จักการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมจนเดี๋ยวนี้สามารถเป็นแกนนำนำน้องๆ ได้แล้ว


การสร้างโอกาส จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เยาวชน เกาะขวางมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งโอกาสที่ว่านั้น คือการได้รับจาก ผู้ใหญ่ใจดีที่ต่อสู้ ทุ่มเท อย่างอดทนเพื่อทุกๆ คนได้ดี

Shares:
QR Code :
QR Code