‘ชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่’ จัดเต็มลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ปัญหาจากการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้เป็นปัญหาของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งอีกต่อไปแล้ว แต่ได้กลับกลายเป็นปัญหาในระดับโลก ซึ่งทั่วโลกตระหนักแล้วว่า แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุต้นๆ ของความรุนแรงในครอบครัว จากแนวนโยบายแอลกอฮอล์ระดับโลก (global alcohol policy conference : gapc) ภายใต้หัวข้อ “จากแผนยุทธศาสตร์ระดับโลกสู่การปฏิบัติระดับชาติและท้องถิ่น” สะท้อนให้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าจะเริ่มแก้ปัญหาแอลกอฮอล์จะต้องเริ่มจากท้องถิ่นเล็กๆ ก่อนจะขยายไปสู่วงที่กว้างขึ้น

“ชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่” เขตธนบุรี เป็นอีกหนึ่งชุมชนเล็กๆ ที่ประสบปัญหาเรื่องของแอลกอฮอล์ แวดล้อมด้วยวิถีชีวิตของคนในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ที่มีการดื่มสุราเป็นประจำกันเกือบทุกครัวเรือน ปัญหาที่ตามมาคือ ความรุนแรงในครอบครัว สุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ เจ็บป่วยสารพัดโรค รายได้ไม่พอกับรายจ่าย การทะเลาะวิวาท จนกลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรม เป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสำหรับเยาวชน

แต่วันนี้ “ชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่” ได้พลิกโฉมหน้าจากชุมชนแหล่งเสื่อมโทรมกลายมาเป็นชุมชนตัวอย่างของการ ลด ละ เลิกหล้า เป็นตัวอย่างที่ดี พร้อมอวดสายตาชาวโลก เมื่อนักวิชาการจากนานาประเทศที่เข้าร่วมประชุมนโยบายแอลกอฮอล์ระดับโลก (global alcohol policy conference : gapc) ที่ประเทศ

ไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้  อาทินักวิชาการจาก  แอฟริกา สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เนปาล อินเดียนิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ เข้าร่วมเยี่ยมชมการดำเนินงานของชุมชนแห่งนี้ เพื่อนำประสบการณ์ที่ได้ไปใช้เป็นแนวทางแก้การปัญหาแอลกอฮอล์ ให้กับชุมชนในประเทศของตนเองสำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจของชุมชนฯคือ โครงการสร้างเสริมเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, โครงการ ญ”สถานีตำรวจ (นำร่อง)ลด ละ เลิกเหล้า เข้าพรรษา” รณรงค์ประชาสัมพันธ์ในชุมชนและกิจกรรมพัฒนาศักยภาพแกนนำคนต้นแบบ ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้ได้มีทีมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เข้ามาทำหน้าที่คอยให้คำปรึกษาเป็นพี่เลี่ยงให้อย่างต่อเนื่อง

พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผกก.สน.สำเหร่  หนึ่งในผู้ร่วมผลักดันให้ชุมชนแห่งนี้เกิดแนวคิด ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อธิบายว่า เป็นความโชคดีของชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่ ที่มีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง และเมื่อได้ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ดำเนินโครงการสร้างเสริมเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ ผลจากการดำเนินงานของแกนนำชุมชน พบว่า สถานการณ์การดื่มส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวชุมชนอย่างรุนแรง และฝังรากลึกอย่างน่าเป็นห่วง จนพูดได้ว่าผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกิดได้ทุกรูปแบบ

ปัจจุบันชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่ ได้กลายเป็นชุมชนนำร่องในโครงการชุมชน กทม. ลด ละ เลิก เหล้า ลดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก จัดกิจกรรมเพื่อเป็นกำลังใจและเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่ประสบปัญหาความรุนแรงและผู้ที่ผ่านพ้นและผู้ที่กำลังลดละ เลิกเหล้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์แก้ไขปัญหาความรุนแรงและการลดละเลิกเหล้า รวมถึงเป็นการติดตามสร้างความเข้มแข็งนำไปสู่การเป็นแกนนำ

สำหรับบทบาทของตำรวจในชุมชนแห่งนี้ คือ เป็นผู้ประสานงาน ผู้ไกล่เกลี่ยให้กับครอบครัวที่เกิดปัญหาความรุนแรงเข้ามา และสนับสนุนโดยใช้กฎหมายมาเป็นข้อบังคับทางอ้อมให้กับผู้ที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัวยอมรับการบำบัด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ด้าน พญ.กิตติยา ศรีเลิศฟ้า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากสิน กล่าวว่า ในส่วนของโรงพยาบาลจะทำหน้าที่รับผู้ที่ต้องบำบัดเลิกเหล้า มาจากชุมชนส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย  เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลิกเหล้า ระยะเวลาที่ใช้ในการำบัดเริ่มจาก 3 เดือนเป็นต้นไป การบำบัดจะเริ่มจากการใช้ยา ให้คำปรึกษา  และติดตามผลอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่เดินเข้ามาขอรับการบำบัดเลิกเหล้าเองส่วนใหญ่จะมีปัญหาด้านสุขภาพแล้ว ส่วนผู้ที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัวจากชุมชนจะเป็นผู้ส่งตัวเข้ามา

สิ่งที่อยากสะท้อนไปทุกภาคส่วนในสังคมคือ การทำงานของชุมชนและโรงพยาบาลเราจะทำงานกันเป็นเครือข่าย ช่วยให้การทำงานประสบความสำเร็จ และที่สำคัญ ทางโรงพยาบาลจะมีเจ้าหน้าคอยติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง  และให้คำปรึกษาในการลด ละ เลิก เหล้า และบุหรี่ พลังของเครือข่ายจะทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ผอ.รพ.ตากสิน กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย