ชุมชนปลอดภัย ห่างไกลโควิด – 19
เรื่องโดย เทียนทิพย์ เดียวกี่ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจากการเสวนาออนไลน์ ‘สูงอายุ’ ปลอดภัย ท้องถิ่นสร้างกลไกดูแล
ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ในทุกๆ วัน ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงการณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ สิ่งที่น่าจับตามองคือ ส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตมักจะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว
ผู้สูงอายุ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 มากกว่าช่วงวัยอื่นๆ เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะรับโควิด-19 ได้ง่าย หากไม่ได้มีการดูแลและป้องกันอย่างดี
เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชน โดยเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ สสส. จัดเสวนาออนไลน์ เรื่อง ‘สูงอายุ’ ปลอดภัย ท้องถิ่นสร้างกลไกดูแล แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานในระดับพื้นที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทอย่างไรในการเร่งสื่อสารกับสมาชิกในชุมชนและช่วยป้องกันให้ชุมชนมีสุขภาวะที่ดีและปลอดจากโควิด-19 ซึ่งหน้ากากอนามัย และ หน้ากากผ้า กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทุกคนต้องมีติดตัว โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างผู้สูงอายุ นางลัดดา ไชยชนะ นายกเทศมนตรี ต.สองแคว อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ต้องตั้งรับให้เร็วที่สุดให้ผู้สูงอายุปลอดภัย และในช่วงนี้ที่เกิดการระบาด หน้ากากอนามัยจะขาดแคลน ทำอย่างไรที่จะมีใช้กันอย่างทั่วถึง จึงเชิญชวนเครือข่ายเข้ามาร่วมด้วย คือ กศน. เพื่อออกแบบหน้ากาก และเทศบาลมีหน้าที่จัดหาวัสดุ ผลิตให้เพียงพอสำหรับทุกคนในตำบล ไม่เฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น โดยให้ผู้สูงอายุและแม่บ้านที่มีอาชีพเย็บผ้าเข้ามามีส่วนร่วมในช่วงที่ไม่ได้ทำงาน ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์
การรับมือกับโควิด -19 ในพื้นที่ ต.สองแคว อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
1.ส่งหน้ากากอนามัยถึงบ้านโดยผ่านทางอาสาสมัครที่ดูแลผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง
2.มีถุงยังชีพแจกผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงและผู้ยากไร้ โดยกองทุนสวัสดิการชุมชน
3.แจกไข่ไก่ทุกครัวเรือน
4.ซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิและเจลล้างมือ
5.ทำความสะอาดสถานที่ หรือจุดเสี่ยงที่ผู้สูงอายุมักจะไปรวมตัวกัน เช่น วัด งานศพ โดยการพ่นยาฆ่าเชื้อ
6.สร้างนโยบายสาธารณะในงานศพ มีการล้างมือก่อนเข้างาน มีการตั้งจุดคัดกรองโรค มีการเลี้ยงอาหารกล่องไม่ใช้แบบขันโตก
7.หากเกิดโรคระบาด มีสายด่วนฉุกเฉินในการช่วยเหลือผู้ป่วย พร้อมทั้งเตรียมถังออกซิเจนไว้บริการ
เช่นเดียวกับ นายจิรทีปต์ ทวีสุข นายก อบต.ราชสถิตย์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง กล่าวว่า ชุมชนมีการเตรียมความพร้อมโดยให้ความรู้แก่ประชาชน และแจกจ่ายหน้ากากผ้า โดยชุดแรกเน้นมอบให้ผู้สูงอายุและเด็ก รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนโดยทำโปสเตอร์และแผ่นพับ มีป้ายประชาสัมพันธ์ มีเจลล้างมือแจกตามร้านค้าในชุมชน และให้ความรู้ผ่านเสียงตามสายวันละ 3 ครั้ง เนื่องจากคนในพื้นที่มีการตื่นตัว และมีผู้เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในพื้นที่ แต่ก็ได้ทำการเฝ้าระวัง ควบคุมการแพร่เชื้อ มีการกักตัว และดูแลไม่ให้ออกมานอกบ้าน ซึ่งก็ยังไม่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ชุมชน นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมทำอ่างล้างมือในพื้นที่ที่เป็นแหล่งรวมตัวของคนในชุมชนอีกด้วย
ในบางพื้นที่ถึงขั้นต้องรีบปิดตำบล เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคน นายสิทธิชัย วิลัยเลิศ นายก อบต.ดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เล่าว่า ด้วยลักษณะของพื้นที่เป็นไข่ดาว เพราะพื้นที่รอบข้างมีผู้ติดเชื้อ จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมโรคระดับตำบลขึ้นมา และดำเนินการปิดตำบลตั้งแต่กลางเดือนมกราคม สั่งปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ ปิดตลาด ปิดร้านอาหารทั้งหมดในพื้นที่ โดยเชื่อว่าการป้องกันดีกว่าการรักษา เรื่องหน้ากากผ้า ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ ในการผลิตหน้ากาก เป้าหมายแรกที่ต้องดูแล คือ ผู้สูงอายุ แต่ถ้าเป็นหน้ากากชนิดพิเศษจะให้กับผู้ดูแลรักษาคนไข้ อย่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ที่ต้องลงพื้นที่คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพ และจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งทำอ่างล้างมือในพื้นที่ที่เป็นหน่วยงานราชการและพื้นที่ที่ประชาชนรวมตัวกัน
จากการปิดตลาดในพื้นที่ ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ เป็นตลาดนัดออนไลน์ ต.ดวนใหญ่ขึ้นมา นำมาสู่ตลาดนัดออนไลน์ อ.วังหิน มีการตั้งตู้ปันสุข ที่อบต.ดวนใหญ่ แต่ไม่ตอบโจทย์ จึงเกิดนวัตกรรมใหม่เป็นรถพุ่มพวงปันสุข ออกทำงานเชิงรุก โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องดำเนินการก่อน ได้แก่
1. ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องอาหารสถานการณ์โควิด
2.ผู้สูงอายุทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด เรื่องอาหาร
3.กลุ่มที่ตกงานที่มาจากต่างจังหวัด ผ่านรถพุ่มพวงปันสุข
“งดกิจกรรมที่รวมตัวกันของคนหมู่มาก คัดกรองทุกคน เก็บข้อมูลทั้งหมดที่มาจากต่างพื้นที่ โดยผู้สูงอายุที่ต้องรับยาที่ รพ.สต.อย่างต่อเนื่อง จะรับยาผ่านโครงการ อสม.ส่งยาถึงบ้าน หากใครไม่สบาย จะมีคุณหมอที่ประจำ รพ.สต. เดินทางไปหาถึงที่ รวมทั้งทำโครงการโคกหนองนาโมเดลสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ร่วมโครงการเพื่อสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืนในชุมชน โดยขอความอนุเคราะห์พันธ์พืชพันธุ์ปลา มาปลูก มาเลี้ยงในพื้นที่ เป็นการสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืนในชุมชน และต่อยอดไปยังจิตอาสาทำสวนและแบ่งปันครอบครัวอื่นๆ” นายสิทธิชัย กล่าว
น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) กล่าวว่า จากการเสวนาในครั้งนี้มีคุณค่าที่เกิดจากการกระทำร่วมกันของพื้นที่มากพอสมควร แต่สิ่งที่เป็นคุณค่าใหม่ที่เกิดขึ้นมี 3 เรื่อง คือ
1.การที่คนที่มีบทบาทหน้าที่ได้รู้ความจริงมากขึ้น เช่น อสม.ได้มีโอกาสลงเยี่ยมผู้สูงอายุ ครูได้เยี่ยมบ้านและรู้จักเด็กมากขึ้น
2.ทดสอบเรื่องความร่วมมือของคนในชุมชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เพียงให้เขารับรู้ข้อมูลและก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี
3.โควิดสอนว่า การทำอะไรก็ตาม ถ้าเราให้ความสำคัญกับทุกคนในชุมชน เราจะประสบความสำเร็จ ได้ทำงานและเปลี่ยนความคิดใหม่ สิ่งที่เราทำจะเกิดคุณค่าใหม่ขึ้นในชุมชนของเรา ซึ่งคุณค่านั้นเกิดขึ้นจากความเชื่อและศรัทธา
นับว่ากลไกการดูแลของท้องถิ่นสามารถตอบโจทย์สถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้จะสำเร็จไม่ได้หากสมาชิกในชุมชนไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ สามารถรับชมการเสวนาออนไลน์ย้อนหลังได้ที่ >>> https://www.facebook.com/thaihealthycommunity/videos/615197356017081/