ชุมชนจักรยาน ‘ดงกลาง’ ปั่นจริงได้ทุกวัน
สสส. ร่วมกับ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จัดงานรณรงค์ CAR FREE DAY บ้านทุ่ง ปั่น “ 4 วัด 1 บึง 9 หมู่บ้าน” ชู “ดงกลาง” ชุมชนจักรยาน ต้นแบบ ปันจริงปั่นได้ทุกวัน
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่องค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง จ.พิจิตร ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ กรรมการบริหารกลุ่มแผนส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. และที่ปรึกษา ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานรณรงค์ เนื่องในวันปลอดรถหรือคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day, CFD) ได้กำหนดให้มีกิจกรรมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 22 ก.ย.ของทุกปี สำหรับประเทศไทยในปี ปี 2557 นี้ตรงกับวันจันทร์ จึงกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ย. เพื่อความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน โดยชมรมจักรยานฯ ได้จัดรณรงค์ CAR FREE DAY: แบบชาวบ้าน ของชาวบ้าน โดยชาวบ้าน เพื่อชาวบ้าน ที่บ้านดงกลาง จ.พิจิตร ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากที่กระทำกันมาอยู่เดิมโดยตลอด ถือได้ว่าเป็นแห่งแรกของโลกที่มีรูปแบบกิจกรรมแบบนี้ นอกจากประโยชน์ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานฯลฯแล้ว ยังเป็นการแสดงสิทธิพื้นฐานอันชอบธรรมของชาวบ้านและชุมชนที่จะดำรงชีวิตอย่างพอเพียง โดยลดการใช้ยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ในทุกๆวัน
“การรณรงค์ Car Free Day ที่ทำกันอยู่ มีข้อดีในการสร้างกระแสสังคมให้ตื่นรู้เรื่องประโยชน์ของการดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ฯลฯ แต่เป็นรูปแบบที่มีภาพลักษณ์ของ'นักจักรยาน'ที่แต่งกายเป็นพิเศษเฉพาะตัว ซึ่งไม่ใช่แนวทางของ CFD ที่ควรเป็นกิจกรรมที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในทุกชุมชน ในทุกๆวัน”ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัยกล่าว
เส้นทางจักรยานในชุมชนที่ทุกคนปั่นได้จริง
ศ.กิตติคุณ ดร.ธงชัย กล่าวอีกว่า สำหรับ “ดงกลาง” เป็นชุมชนที่มีคนใช้จักรยานและเดินในชีวิตประจำวันเป็นปกติทุกวันแม้ไม่ใช่คาร์ฟรีเดย์ และจำนวนคนเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นหลังจากชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยและมูลนิธิโอกาส ได้เข้าไปจุดประกายแนวคิดส่งเสริมการเดินและการใช้จักรยานในชุมชน จนเกิดเป็นชุมชนจักรยานต้นแบบในสังคมท้องถิ่น เนื่องจากมีแกนนำชุมชนที่มีความเข้มแข็ง โดยครั้งนี้ได้มีการถวายใบประกาศเชิดชูเกียรติในการร่วมขับเคลื่อนชุมชนจักรยานบ้านดงกลาง แด่พระครูวิจารย์ธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดดงกลางด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรกล่าวเปิดงาน Car Free Day บ้านทุ่ง
ชุมชนจักรยาน ณ วัดดงกลาง
ด้านนายปรีชา โพธิ์แก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงกลาง กล่าวว่า ชาวชุมชนดงกลาง มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่เป็นแบบชุมชนเกษตรกรรม ชาวบ้านใช้จักรยานในทุกๆ วันอยู่แล้ว การปั่นจักรยานไปทำงาน ไปวัด ไปโรงเรียนของเด็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่มากนัก แต่กลับเป็นภาพชินตา เพียงแต่การรวมตัวกันของคนใช้จักรยานในวันนี้มีมากกว่า 200 คัน และเป็นคราวเดียวกัน และมีศูนย์กลางและเส้นทางที่จะปั่นไปพร้อมกันจึงทำให้ชาวบ้านคึกคัก ตื่นตัว ตื่นเต้นกันพอสมควร อีกทั้งมีคนนอกพื้นที่ มาร่วมกิจกรรมด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้น และนับเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปกระตุ้นให้ชาวบ้านที่ยังไม่ได้ใช้ได้ให้มาใช้จักรยานด้วย
พระครูวิจารณ์ธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดดงกลาง ในฐานะบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องชุมชนจักรยานมาแต่ต้นและจริงจัง กล่าวว่า ชาวบ้านดงกลางใช้จักรยานกันอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหลังจากมีการรณรงค์ส่งเสริมโดยชมรมจักรยานฯ กับมูลนิธิโอกาส กิจกรรมวันนี้ที่เกิดขึ้นได้ก็เกิดจากความร่วมไม้ร่วมมือของชาวชุมชน ดงกลางยังเป็นวิถีแต่เดิมอยู่ ความสัมพันธ์ของบ้าน วัด โรงเรียน และชาวชุมชนยังคงมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวเนื่องต่อกัน วัดยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน หากชุมชนอื่นๆ ยังคงมีความพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ความเป็นชุมชนน่าอยู่ สังคมน่าอยู่ เมืองน่าอยู่ ประเทศไทยก็คงอยู่น่าอยู่ขึ้น
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข