ชี้ พ่อแม่’ติดพนัน อาจส่งผล’ลูก’เดิมพันตาม

พันธุกรรมมีส่วนเกี่ยวข้อง

 

          นักวิจัยกล่าวในรายงานที่อยู่ในอาร์ไคฟ์สออฟ เจเนอรัล ไซเคียทรีฉบับเดือนมิถุนายนว่ายีนมีบทบาทสำคัญในการเสพติดและการพนัน

 

          “การวิจัยที่เคยทำกันก่อนหน้านี้โดยใช้กลุ่มตัวอย่างผู้ชาย แสดงให้เห็นว่าการติดการพนันสามารถถ่ายทอดภายในครอบครัว และการวิจัยครั้งนี้พบผลลัพธ์แบบเดียวกันในผู้หญิง”เวนดี้ สลัตสกี้ จากมหาวิทยาลัยมิสซูรี สหรัฐฯกล่าว

 

          จากการศึกษาแฝดแท้และแฝดเทียมสลัตสกี้และทีมนักวิจัยซึ่งมาจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์ควีนส์แลนด์ในบริสเบนออสเตรเลีย สามารถระบุผลของปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมที่มีต่อการเสพติด

 

          ทีมนักวิจัยขอให้ผู้หญิงกว่า 2,700 คนและผู้ชาย 2,000 คนจากสำนักทะเบียนคู่แฝดออสเตรเลีย ตอบคำถามเกี่ยวกับการพนันของตนเอง และยังสอบถามเพื่อนๆ ของกลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ด้วย

 

          คำตอบที่ได้รับคือ กลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมดเล่นการพนันในระดับหนึ่ง แต่ผู้ชายมีแนวโน้มติดการเสี่ยงโชคมากกว่าผู้หญิง

 

          กลุ่มตัวอย่างผู้หญิง 34 คน (1%) มีลักษณะ5 ข้อหรือมากกว่านั้นที่บ่งชี้ถึงปัญหาการติดพนันเทียบกับผู้ชาย 70 คน (3%) ความแตกต่างนี้อาจอธิบายได้จากอิทธิพลของสังคมหรือสิ่งแวดล้อม

 

          ทีมนักวิจัยพบว่า ในกรณีของ แฝดแท้ ถ้าแฝดคนหนึ่งมีปัญหาการติดพนัน มีแนวโน้มว่าอีกคนจะมีปัญหาดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน บ่งชี้ว่าพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

 

          รายงานสรุปว่าปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมไม่สามารถอธิบายความแตกต่างในพฤติกรรมการเสพติดได้ แต่ไม่ถึงกับว่าสภาพแวดล้อมไม่มีอิทธิพลเสียเลย

 

          ทั้งนี้ ผลกระทบร้ายแรงของการติดพนันอาจเกิดขึ้นกับลูกของผู้ที่ติดพนัน ซึ่งจะได้รับถ่ายทอดพันธุกรรมที่ทำให้เกิดปัญหาการเสพติดนี้โดยปริยาย

 

          อย่างไรก็ดี แม้งานวิจัยบ่งชี้ว่าพันธุกรรมมีบทบาทในเรื่องนี้ แต่สลัตสกี้ไม่เชื่อว่ามียีนการพนันในร่างกายมนุษย์

 

          “เช่นเดียวกับโรคติดเหล้า การติดพนันเป็นความผิดปกติที่ซับซ้อน คำตอบอาจอยู่ที่ยีน อาจจะ 10 หรือ 100 ตัวที่เรายังไม่ทราบแน่ชัด แต่ยีนแต่ละตัวจะเพิ่มความเสี่ยงของปัญหานี้”

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์astvผู้จัดการรายวัน

 

 

 

update: 16-06-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ