ชีวิตที่ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่ร่างกายก็ไม่ใช่ของเรา
เรื่องโดย ชมนภัส วังอินทร์ Team Content www.thaihealth.or.th
“เราเติบโตมาพร้อมกับการเห็นมาตลอดว่าคุณแม่มีสุขภาพไม่แข็งแรงแล้วเป็นอย่างไร เราจึงกลัวการเป็นโรคและเจ็บป่วย” นี่คือจุดเริ่มต้นในการดูแลตนเองจากดีเจชื่อดังกูรูชีวิตรัก อย่าง ‘ดีเจพี่อ้อย’ นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ดีเจสาวแห่งคลื่นกรีนเวฟ 106.5 FM ที่บอกตัวเองเสมอว่า ตนเองจะต้องแข็งแรงให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากเลือกได้คงไม่มีใครอยากอ่อนแอให้คนอื่นเดือดร้อน
แม้ดีเจพี่อ้อยจะทำงานหลายอย่างแต่ก็ยังแบ่งเวลาออกกำลังกายแบบทำเองได้ที่บ้าน และไม่ต้องเสียเวลาไปฟิตเนสอยู่เสมอ เช่น การเต้น T25 ที่ใช้เวลาเพียงแค่ 25 นาที ก็เผาผลาญพลังงานและได้เหงื่อไปไม่น้อย ที่สำคัญในทุก ๆ วันจะต้องดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-10 แก้ว โดยดีเจพี่อ้อยบอกต่อไปว่า วิธีที่เลือกทำจะต้องไม่รู้สึกว่าทำไปแล้วไม่มีความสุข การกินอาหารก็ไม่ได้กินคลีนจนรู้สึกว่าอาหารสุขภาพไม่อร่อย แต่ใช้การสร้างสมดุลให้ตนเองแทน เช่น วันนี้กินเนื้อสัตว์ วันต่อไปก็กินผักให้เยอะหน่อยและออกกำลังกายอยู่เสมอ ๆ เพียงเท่านี้เราก็ใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว
หนึ่งกิจกรรมที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคือ การบริจาคเลือดทุก ๆ 3 เดือน และได้ขอบริจาคดวงตาพร้อมอวัยวะไว้เรียบร้อยแล้ว ที่ทำเช่นนี้เป็นอีกหนึ่งเทคนิค และเพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เรารักษาสุขภาพในทุก ๆ วัน “เพราะว่าร่างกายนี้ เราไม่ได้ใช้คนเดียว เลือดนี้เราไม่ได้ใช้คนเดียว เลยทำให้เรารู้ว่าจะต้องดูแลตัวเองโดยอัตโนมัติ เพราะมีคนรอที่จะใช้อวัยวะต่อจากเรา ซึ่งเขาจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่”
ที่เห็นว่าดีเจพี่อ้อยเป็นที่ปรึกษาให้ใครหลาย ๆ คน ก็จำเป็นต้องมีวิธีการดูแลจิตใจให้พร้อมเป็นที่ปรึกษาให้ใคร ดีเจพี่อ้อยบอกว่า ความโชคดีในชีวิต คือ การได้รับฟังเรื่องหัวใจของคนอื่น ทุกครั้งที่ได้ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องนั้น ๆ ก็ทำหน้าที่เป็นครูสอนเราได้เหมือนกัน ทุกครั้งที่ได้รับฟังก็ทำให้คิดได้ว่า “คนเราทุกข์สุขบางทีก็เกิดจากลมหายใจ เกิดจากความคิด ถ้าคิดว่ามันทุกข์มันก็ทุกข์ หากคิดว่ามันสุขก็สุขได้เหมือนกัน เราจึงต้องสุขให้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่มี”
“ในชีวิตการทำงานที่หลายคนท้อหรือไม่สนุกกับงาน แต่สำหรับดีเจพี่อ้อยแล้ว ถึงแม้อาชีพที่ทำจะไม่ได้มั่นคง เพราะการเป็นดีเจแค่ปิดไมโครโฟนก็ทำงานต่อไม่ได้ งานที่ทำก็มีคนรุ่นใหม่เข้ามาตลอดเวลา มันทำให้ย้อนคิดและเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่มากขึ้น การทำคลับฟรายเดย์สอนเรื่องความไม่แน่นอนในชีวิตของทุกวัน
“ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งร่างกายหรือสุขภาพของเรา เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้เต็มที่ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งชีวิตการทำงาน สุขภาพ หรือแม้กระทั่งความรัก ใช้หลักสูตรเดียวกันหมด วันนี้แข็งแรงพรุ่งนี้ไม่รู้แล้วนะ เพราะเราไปตรวจสุขภาพไม่รู้ว่าจะตรวจเจออะไร ส่วนความรักวันนี้รัก…พรุ่งนี้อาจจะไม่รักแล้วก็ได้” แต่วันนี้ควรดูแลร่างกายให้เต็มที่ก่อน เรียกว่าเดินทางสายกลาง อาจจะไม่ต้องกลางมากแต่ต้องไม่ตกขอบก็พอ” ดีเจพี่อ้อยเล่าทิ้งท้าย
การดูแลตัวเองได้ทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น และไม่ตกเป็นภาระของลูกหลานในวัยสูงอายุ ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ทั้ง 4 มิติ กาย ใจ ปัญญา สังคม เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของคนไทย ลดจำนวนประชากรที่เจ็บป่วยลง พร้อมหนุนเสริมองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพของคนไทยทุกคน