ชายไทยไม่ยอมรับหญิงอมควัน
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า เพศหญิงมีความรู้เรื่องพิษภัยจากการสูบบุหรี่สูงกว่าเพศชาย และสัดส่วนของเพศหญิงที่สูบบุหรี่ต่ำกว่าเพศชายถึง 10 เท่า
วันที่ 5 มีนาคม รศ. บุปผา ศิริรัศมี สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าโครงการวิจัยติดตามผลกระทบจากนโนบายควบคุมการบริโภคยาสูบ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เนื่องในวันสตรีสากลตรงกับวันที่ 8 มีนาคมจากผลการสำรวจติดตามผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ 2,000 คน และวัยรุ่น 1,000 คน มาเป็นเวลา 7 ปีตั้งแต่ปี 2548 – 2554 พบว่า เพศหญิงมีความรู้เรื่องพิษภัยจากการสูบบุหรี่สูงกว่าเพศชาย เช่น การสูบบุหรี่ทำให้แก่เร็วกว่าอายุ เป็นสาเหตุของมะเร็งในช่องปาก โรคหลอดเลือดในสมอง เป็นต้น
อีกทั้ง ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่าสังคมไทยไม่ยอมรับการสูบบุหรี่ในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ชาย ในขณะที่ผู้ชายสัดส่วนมากถึง 8 ใน 10 คน ไม่ยอมรับการสูบบุหรี่ของผู้หญิง อาจเพราะค่านิยมของสังคมไทย “สัดส่วนของเพศหญิงที่สูบบุหรี่ต่ำกว่าเพศชายถึง 10 เท่า ชี้ให้เห็นว่า หญิงไทยไม่นิยมการสูบบุหรี่ สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ทั้งเพศชายและเพศหญิงเคยพยายามเลิกสูบบุหรี่ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ ประมาณร้อยละ 70 ในส่วนของวัยรุ่นพบว่า วัยรุ่นชายสูบบุหรี่มากกว่าวัยรุ่นหญิง ถึง 10 เท่า เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ วัยรุ่นไทยทั้งเพศชายและเพศหญิง ยอมรับการสูบบุหรี่ของเพศชายมากกว่าการสูบบุหรี่ของเพศหญิง และเมื่อวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงของการสูบบุหรี่ในวัยรุ่น พบว่า วัยรุ่นชายมีความเสี่ยงต่อการสูบบุหรี่มากกว่าวัยรุ่นหญิงถึง 20 เท่า”
รศ.อารี จำปากลาย รองหัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลยังพบว่า ผู้หญิงสูบบุหรี่ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง มีสัดส่วนสูงกว่าผู้หญิงสูบบุหรี่ที่อาศัยอยู่ในเขตชนบท ผู้หญิงสูบบุหรี่ที่มีสถานภาพสมรสหม้าย หย่า และแยกทางกัน มีสัดส่วนสูงกว่าผู้ชายที่สูบบุหรี่ที่เป็นหม้าย หย่า และแยกทางกัน และที่สำคัญยังพบว่าผู้สูบบุหรี่ในกรุงเทพฯ เห็นว่าการสูบบุหรี่ของผู้หญิงเป็นเรื่องยอมรับได้ถึงร้อยละ 16.2 สูงกว่าผู้สูบบุหรี่ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและเขตชนบท
สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป คือ จะต้องรณรงค์ให้ผู้หญิงไม่เห็นดีเห็นงามไปกับการสูบบุหรี่ และผู้ชายไม่เห็นชอบกับผู้หญิงสูบบุหรี่ด้วย จึงต้องมีการปลูกฝั่งค่านิยมเชิงลบต่อการสูบบุหรี่ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยทำให้ผู้หญิงเข้มแข็งและไม่ตกเป็นเหยื่อของบุหรี่ได้
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า แม้จะเป็นเรื่องที่ดีที่หญิงไทยยังสูบบุหรี่กันน้อยมาก แต่ปัญหาใหญ่คือ ข้อมูลที่ผ่านมาพบว่าหญิงไทย 8.4 ล้านคนได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน และ 1.39 ล้านคนในที่ทำงาน จึงขอเชิญชวนผู้สูบบุหรี่ทุกคนไม่สูบบุหรี่ในบ้านและในที่ทำงาน เพื่อลดผลกระทบที่ควันบุหรี่มือสองมีต่อหญิงไทย ที่จริงแล้วหญิงที่ได้รับควันบุหรี่มือสองก็คือคนในครอบครัวของผู้สูบบุหรี่เองแทบทั้งสิ้น
ที่มา : มติชนออนไลน์