ชัยภูมิ เตือนประชาชนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
สสจ.ชัยภูมิ เตือนประชาชนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ หลังพบมีแนวโน้มแพร่ระบาดมากขึ้น โรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อทางการไอจามหรือติดต่อทางสารคัดหลั่งการป้องกันทำได้โดยการใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีอาการไอหรือจามและฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะประชาชน7กลุ่มเสี่ยง
นายแพทย์วชิระ บถพิบูรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ยังอยู่ช่วงฤดูฝนพื้นที่จังหวัดชัยภูมิตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนปีนี้ พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนมีทั้งร้อนและฝนตกชื้น จากรายงานตั้งแต่ต้นปีถึงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (28มิ.ย.62) พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เข้ารักษาตัวในสถานบริการสาธารสุขทั้งจังหวัดชัยภูมิแล้วกว่า 2,200 คน มากกว่าปี่ผ่านมาเกือบเท่าตัว และมีแนวโน้มแพร่ระบาดมากขึ้นแต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ พบทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A และสายพันธ์ B ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อทางการไอจามหรือติดต่อทางสารคัดหลั่ง การป้องกันทำได้โดยการใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีอาการไอหรือจามและฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิกล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ไข้ ไอ น้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ หากมีไข้สูงเกิน 24 ชั่วโมง ให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง ควรแยกผู้ป่วยทันทีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น และให้รีบรักษาตัวให้หายจากอาการป่วยไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะคนในครอบครัวและป้องกันความรุนแรงของโรคที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ 2.เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 3.ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัดและเบาหวาน 4.ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ 6.ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ 7.ผู้ที่มีโรคอ้วนน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือค่าดัชนีมวลกาย (BMI )มากกว่า 35 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร กระทรวงสาธารณสุขจะให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีโดยขอรับบริการวัคซีนได้ที่ สถานบริการสาธารณสุขของรัฐและสถานพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่บัดนี้ 31 สิงหาคม 2562 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422