ชวนเด็กไทยดูภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เรียนรู้เรื่องสุขภาพผ่านฟิล์ม

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจากเว็บไซต์ไทยรัฐ


ชวนเด็กไทยดูภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เรียนรู้เรื่องสุขภาพผ่านฟิล์ม thaihealth


สสวท.จัดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 14 ทำเรื่องวิทยาศาสตร์ยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้สื่อภาพยนตร์ที่สนุกสนาน กระตุ้นเด็กไทยเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ปีนี้เน้นแนวคิด "การปฏิวัติทางอาหาร" มุ่งสร้างความเข้าใจเรื่องอาหารกับสุขภาพ รับชมกันได้ทั่วประเทศ


เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.30-15.30 น. นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด งานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 14 (Science Film Festival 2018) ณ ห้องประชุม 201 ชั้น 2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ จัดโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และหน่วยงานหลักร่วมจัด ภายใต้หัวข้อ "การปฏิวัติทางอาหาร" (The Food Revolution)


โดยมีผู้ร่วมงานที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรในการให้เด็กไทยเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ ประกอบด้วย ศ.ดร.ประสาท สืบค้า ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) Mr.Georg Schmidt เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย Mrs.Maren Niemeyer ผู้อำนวยการสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และ ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานหลักร่วมจัด


นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่มีสาระบันเทิงเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผ่านสื่อภาพยนตร์ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือหลายๆ ฝ่าย โดยจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 14 เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ปีที่ผ่านมามีผู้สนใจชมภาพยนตร์มากกว่า 500,000 คน โอกาสนี้อยากเชิญชวนให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้ชมภาพยนตร์จากนานาประเทศมีคุณค่าสำคัญด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี


ชวนเด็กไทยดูภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เรียนรู้เรื่องสุขภาพผ่านฟิล์ม thaihealth


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า เมื่อเยาวชนได้ชมภาพยนตร์จะช่วยเพิ่มการเรียนรู้ให้เห็นประโยชน์ของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เข้าใจวงจรระบบการผลิตอาหารที่มีการขยายตัวของการปศุสัตว์และเกษตรกรรมเชิงอุตสาหกรรม ที่ทำให้เกิดสารเคมีเกินความจำเป็น ทำให้สภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนไป ดังนั้น การปฏิวัติทางอาหารจึงเป็นทางออกสำคัญที่ทุกคนสามารถช่วยกันด้วยการบริโภคอาหารตามฤดูกาล รับประทานพืชผักผลไม้ที่ผลิตด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น ลดปริมาณอาหารที่ผลาญพลังงานอย่างเนื้อสัตว์ลง ซึ่งคาดว่า เมื่อเยาวชนและประชาชนทั่วไปมีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งมีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน สร้างสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่อาศัยมากขึ้น จะส่งผลให้ประเทศชาติพัฒนาและก้าวหน้าอย่างมีคุณภาพ


ทางด้าน ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า สสวท.ได้ร่วมกับสถาบันเกอเธ่ ริเริ่มจัดงานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อเป็นสื่อกลางส่งเสริมวัฒนธรรม นำสาระความรู้ความบันเทิงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสู่เยาวชน บุคลากรทางการศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป ให้เกิดความคุ้นเคยและเรียนรู้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งช่วยให้วงการภาพยนตร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนใจผลิตภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ให้มากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี อาทิ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ทำให้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้ คณะผู้จัดงานได้นำเสนอภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เรื่องคนิตซ์เชอร์ ตอน อร่อยดีมีประโยชน์ และการแสดง Science Show จากสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ในพิธีเปิดเทศกาลครั้งนี้ด้วย


สำหรับเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 14 มีการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ร่วมกับจัดฉายภาพยนตร์จำนวน 21 เรื่อง จาก 8 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย 1 เรื่อง โคลอมเบีย 2 เรื่อง คิวบา 1 เรื่องแคนาดา 2 เรื่องเยอรมนี 8 เรื่องสหรัฐอเมริกา 3 เรื่อง อังกฤษ 1 เรื่องประเทศไทย 3 เรื่อง ได้แก่ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ตอน ต้นไม้จอมงับ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยตอนแมงมุมและคิดเรนเจอร์ ตอนลูกข่าง แนวคิดเรื่อง "การปฏิวัติอาหาร" ซึ่งแต่ละเรื่องมีความน่าสนใจ เนื้อหาเข้าใจง่าย สนุกสนาน เพลิดเพลิน


ผู้สนใจสามารถชมฟรีได้ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน-23 ธันวาคม 2561 ที่ศูนย์ฉายทั้งกรุงเทพฯ และภูมิภาค ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 19 แห่งทั่วประเทศ (ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ รังสิต อุบลราชธานี ลำปาง ร้อยเอ็ด กาญจนบุรี ยะลา สระแก้ว ตรัง นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ สมุทรสาคร นครราชสีมา ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา นครพนม พิษณุโลก นราธิวาส และอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ประจวบคีรี ขันธ์) ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนชุมพร องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลองห้า ปทุมธานี จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. จามจุรีสแควร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย คลองหลวง ปทุมธานี โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) นครปฐม อุทยานการเรียนรู้เมืองนครศรีธรรมราช ดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ http://sciencefilm.ipst.ac.th

Shares:
QR Code :
QR Code