ชวนหนูๆ สานฝันวันเด็กผ่านไปรษณีย์

จินตนาการถึงคุณพ่อที่ลูกอยากให้เป็น

 

ไปรษณีย์ไทยเปิดศักราชใหม่แทคทีมเครือข่ายครอบครัว จัดกิจกรรมสำหรับเด็กรับปีเสือน้อย เชิญชวนน้อง ๆ ทั่วไทยวัยไม่เกิน 15 ปี รวมพลัง เล่าฝัน…วันของหนูตอนอยากให้พ่อเป็นแบบไหน ผ่านจดหมายหรือโปสการ์ด ส่งฟรีไม่ต้องมีแสตมป์ ทุกฉบับรับฟรีแสตมป์ปีใหม่ส่งให้ถึงบ้าน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มกราคม 2553

 

นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการรณรงค์ส่งเสริมการเขียนจดหมาย เล่าฝัน…วันของหนูในวันนี้ (7 ม.ค.) ว่า กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ปณท. กับมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งภายในสถาบันครอบครัว ตลอดจนเป็นสื่อกลางความรักความเข้าใจระหว่างสมาชิกในครอบครัว โดยเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ อายุไม่เกิน 15 ปี เขียนจดหมายหรือโปสการ์ดถึงใครสักคนเพื่อบอกเล่าความฝันของตนว่าอยากให้พ่อเป็นแบบไหน

 

วันเด็กปีนี้ถือเป็นจุดเริ่มของการเปิดความฝันของเด็กไทยเพื่อให้สังคมได้รับรู้ โดยเฉพาะเรื่องที่ใกล้ตัวเด็กมากที่สุด นั่นคือคุณพ่อนั่นเอง ซึ่งถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในครอบครัว อีกทั้งเป็นแบบอย่างของเด็ก ๆ ทุกคนด้วย เราจึงเชิญชวนน้อง ๆ ให้บอกเล่าความฝันผ่านจดหมายหรือโปสการ์ดว่า อยากให้พ่อเป็นแบบไหนโดยไม่ติดต้องติดแสตมป์ ส่งมาที่ตู้ ปณ.222 สำนักงาน ปณท 10002 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ม.ค.2553

 

นายวันชัย บุญประชา ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ในฐานะคณะทำงานส่งเสริมสุขภาวะครอบครัว  ได้เปิดเผยถึงผลสำรวจความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างพ่อกับบุคคลในครอบครัวที่ผ่านมา โดยสำนักงานวิจัย และจากโครงการ ใกล้กันอีกนิด…นะพ่อโดย สถาบันราชนุกูล  กรมสุขภาพจิต พบว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัว พ่อจะมีความสัมพันธ์ที่ห่างเหินจากลูก และภรรยามาก และเมื่อเปรียบเทียบความสัมพันธ์พ่อ แม่ ลูกนั้น  ลูกจะมีความใกล้ชิดกับผู้เป็นแม่มากกว่าพ่อ และลูกต่างๆ ก็เรียกร้องให้พ่อมีเวลา และใกล้ชิดกับพวกเขามากขึ้น

 

การที่ลูกๆ ได้มีโอกาสสื่อสารสิ่งที่เขาเห็น สิ่งที่เขาคิด และความตั้งใจที่มีต่อพ่อโดยการเขียนจดหมาย เล่าฝัน วันของหนู จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจสำคัญ ที่จะทำให้ผู้เป็นพ่อ ได้กลับมาให้เวลา ความใกล้ชิดกับลูกๆมากยิ่งขึ้น

 

ด้านนางสาวเข็มพร วิรุณพันธุ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรมการเขียนจดหมาย เล่าฝัน…วันของหนู ในครั้งนี้ว่า การเปิดโอกาสให้เด็กได้คิด และแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างอิสระด้วยการเขียน ผู้ใหญ่อาจจะได้รับรู้ในเรื่องที่ลึกซึ้ง ไม่เคยรับรู้มาก่อน เพราะ เด็กอาจไม่กล้าพูด หรือยังสื่อสารด้วยการพูดไม่ดีพอ   นอกจากนั้นในวิถีชีวิตโดยทั่วไป เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่มักจะละเลย หรือไม่ได้ตั้งใจฟังเด็กพูดในเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างจริงจัง คือฟังแต่ไม่ได้ยิน กิจกรรมนี้จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้คุณค่าต่อการเรียนรู้ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ เป็นการเติมเต็มช่องว่าง และสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว

 

            อย่างไรก็ตาม จดหมายหรือโปสการ์ดทุกฉบับที่เด็ก ๆ ส่งเข้ามาร่วมกิจกรรม จะได้รับการตอบกลับจาก พ่ออาสาและได้รับแสตมป์ชุดปีใหม่ส่งกลับให้ถึงบ้านฟรีแล้ว จดหมาย 500 ฉบับที่เขียนได้ประทับใจ จะได้รับ หนังสือมหัศจรรย์การอ่านจากแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.)  ไปอ่านแบบสนุกๆ กันที่บ้าน   นอกจากนั้นเด็กยังมีสิทธิ์ลุ้นได้รับจดหมายตอบกลับจาก คุณพ่ออาสาคนดังจำนวน 10 ฉบับ

 

รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามที่ฝ่ายสื่อสารการตลาด โทร.  0 2831 35156 หรือ call center โทร. 1545 หรือดูที่เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมเป็น พ่ออาสาในกิจกรรมครั้งนี้ สมัครได้ที่มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว โทร.02- 954 23467 หรือ [email protected] ตั้งแต่วันนี้ 31 มกราคม 2553

 

—————–

 

เกี่ยวกับโครงการ

โครงการเขียนจดหมาย ฝันของหนู….อยากให้พ่อรู้จัง

 

หลักการและเหตุผล

 

            วันเด็กถือเป็นวันหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเด็ก ๆในสังคมไทยมาช้านาน  จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ใหญ่ที่จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิด โดยเฉพาะความใฝ่ฝันของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นฝันที่มีทางเป็นจริง หรือยากเกินไขว่คว้าก็ตาม  เพียงเปิดโอกาสให้พวกเขาได้บอกเล่าความฝันของตนเองผ่านจดหมายสักฉบับและจะดีเพียงใด หากความฝันเหล่านั้นได้รับการตอบกลับ อย่างน้อยเพื่อแสดงว่ามีผู้รับรู้ถึงความฝันของพวกเขา ไปจนถึงขั้นชี้แนะหนทางสร้างฝันให้เป็นจริงด้วยก็เป็นไปได้  และจากประสบการณ์ของผู้ทำงานภาคประชาสังคมพบว่า ผู้ที่เด็ก ๆอยากให้รับรู้ความฝันของตนเองมากที่สุดก็คือ พ่อแม่ โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อยังคงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในครอบครัวไทยยุคปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของโครงการนี้

 

วัตถุประสงค์

 

1. เพื่อส่งเสริมการเขียนจดหมายให้มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสถาบันครอบครัว

 

2. เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ภาษาไทยในรูปแบบของการเขียนจดหมาย

 

3. เพื่อเป็นสื่อกลางสร้างความรักความเข้าใจระหว่างสมาชิกภายในครอบครัว

 

4. เพื่อร่วมรณรงค์ในการส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว

 

กลุ่มเป้าหมาย

 

            เด็กชายและเด็กหญิงที่มีอายุไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์ ทั้งในและนอกระบบโรงเรียน

 

ลักษณะของกิจกรรม

 

กิจกรรมเขียนจดหมายหรือไปรษณียบัตรเล่าเรื่องความฝันของเด็ก ๆ ในวันเด็กปี 2553 (ที่อยากให้พ่อรู้จัง) โดยส่งมาถึง พี่หนุ่ม ไปรษณีย์ที่ตู้ ปณ.222ฝันของหนูสำนักงาน ปณท 10002 ระหว่างเดือนธันวาคม 255231 มกราคม 2553 โดยจะมีทีม พ่ออาสา” (ในจำนวนนี้จะมีศิลปินที่มีชื่อเสียงร่วมด้วย) ที่สนับสนุนโดย สสส. และเครือข่ายเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวช่วยกันเขียนจดหมายตอบกลับในแนวทางเชิงบวกและสร้างสรรค์ ทั้งนี้จะมีการฝึกอบรมกันล่วงหน้าพร้อมทั้งจะมีนักจิตวิทยาคอยชี้แนะอย่างใกล้ชิด

 

แรงจูงใจให้เด็ก ๆ เข้าร่วมมีด้วยกัน 2 ประเด็นคือ

 

o จดหมาย 10 ฉบับที่ได้รับการสุ่มเลือก จะได้รับการตอบโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ พ่ออาสากิตติมศักดิ์ซึ่ง สสส.รับไปติดต่อประสานงานโดยตรง (เนื่องด้วยนายกฯ เป็นประธานโดยตำแหน่งของ สสส.)

 

o จับฉลากจดหมายจำนวน 500 ฉบับที่จะได้รับโชคเป็นรางวัลหนังสือ 500 เล่ม ในโครงการ ทศวรรษแห่งการอ่านซึ่ง สสส. และเครือข่ายเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวรับไปดำเนินการ ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยน่าจะมีส่วนสนับสนุนรางวัลจำนวนหนึ่งด้วย

 

นอกจากนี้จดหมายใดที่สะท้อนถึงปัญหาที่เด็กกำลังประสบอยู่ และสมควรได้รับการเยียวยาแก้ไข ก็จะมีการพิจารณาส่งต่อไปยังหน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเป็นกรณี ๆ ไป

 

ระยะเวลา

 

การเปิดรับจดหมายและไปรษณียบัตร 15 ธ.ค. 2552 – 30 ม.ค. 2553

 

ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่สนับสนุนโดย สสส.และเครือข่ายฯ รวมทั้งสื่อของ ปณท.

 

การแถลงข่าวเปิดตัวโครงการและเปิดรับสมัครพ่ออาสา กลางเดือน ธ.ค. 2552

 

เข้าพบนายกฯ ในวันเด็กแห่งชาติ 9 ม.ค.2553 เพื่อขอให้เป็นพ่ออาสากิตติมศักดิ์

 

นายกตอบจดหมาย 10 ฉบับ ผ่านวิทยุไทยเพื่อเด็กและครอบครัว fm 105 ในเดือน ม.ค.2553

 

บทบาทของหน่วยงานที่ร่วมโครงการ

 

ปณท เป็นผู้ริเริ่มโครงการโดยใช้ช่องทางไปรษณีย์เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งสนับสนุนในด้านการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนสถานที่สำหรับการทำงานของทีม พ่ออาสาและรางวัลพิเศษแก่เด็ก ๆ ที่ส่งจดหมายเข้าร่วม 

 

สสส.และเครือข่ายที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัว ให้ความร่วมมือในการคิดค้นกิจกรรม สื่อประชาสัมพันธ์ การติดต่อประสานงานกับนายกรัฐมนตรี และแนวคิดในการวางแผนการทำงานต่าง ๆ 

 

เป้าหมายที่คาดหวัง

 

จำนวนจดหมายที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ฉบับ

 

กระแสตอบรับจากสื่อมวลชนในการนำข่าวสารการจัดกิจกรรมไปเผยแพร่ต่ออย่างกว้างขวาง

 

ก่อให้เกิดการนำร่องกิจกรรมส่งเสริมการเขียนจดหมายในลักษณะสื่อสารสองทาง (ทำนองเดียวกับกิจกรรมเขียนจดหมายถึงซานตาคลอส ของการไปรษณีย์ชั้นนำระดับโลกในช่วงเทศกาลคริสต์มาส) และสามารถขยายผลไปสู่การรณรงค์เขียนจดหมายในโอกาสอื่น ๆอย่างต่อเนื่อง เช่นในวันผู้สูงอายุ (เม.ย.) วันแม่ (ส.ค.) และวันพ่อ (ธ.ค.) เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว

 

 

update 07-01-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ