ชวนรู้จักกับ “สารพิษ” ที่ “คิด” ว่าอยู่ในขวดน้ำดื่ม

/data/content/24575/cms/e_fgjnopuv1359.jpg


          ภายหลังการเปิดเผยถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงและวิเคราะห์ผลของน้ำขวดพลาสติกจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไม่พบสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง รวมถึงไม่พบสารพิษไดออกซิน (Dioxins) สาร Bisphenol A (BPA) หรือสาร PCB (Polychlorinated biphenyl) ในขวดน้ำที่ถูกทิ้งไว้ในรถอุณหภูมิสูงแต่อย่างใดนั้น


          จากกระแสข่าวดังกล่าว ยังชวนให้มีข้อสงสัยและเกิดการตั้งคำถามไปต่างๆ นานาว่า ข้อมูลเหล่านั้นให้คำตอบที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ เหตุใดถึงไม่มีการพูดถึง “สารบีพีเอ” (BPA) ในขวดน้ำ รวมถึงยังไม่แน่ใจในความปลอดภัยว่า การทิ้งขวดน้ำไว้ในรถยนต์ที่มีอุณหภูมิสูงจะปลอดภัยจริง เรามาทำความรู้จักกับสารพิษดังกล่าวกันค่ะ


‘สารไดออกซิน( Dioxins)’


          นายคงศักดิ์ ดอกบัว ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศและกลยุทธ์อุตสาหกรรม สถาบันพลาสติก อธิบายให้ฟังว่า สารไดออกซิน( Dioxins) เป็นสารพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารเคมีจำพวกอโรมาติกที่มีคลอไรด์เป็นองค์ประกอบเท่านั้น ซึ่งเป็นการเผาไหม้ที่อุณหภูมิประมาณ 200-300 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าเผาที่อุณหภูมิสูงหรือน้อยกว่านั้น ก็จะไม่เกิดสารพิษชนิดนี้ และสารพิษชนิดนี้ไม่มีที่ใช้ในอุตสาหกรรมใดๆในปัจจุบัน ดังนั้นการเกิดสารพิษชนิดนี้จึงไม่ได้เกิดจากการปนเปื้อนในกระบวนการผลิตจากอุตสาหกรรมใดๆ


/data/content/24575/cms/e_fjnopqvz1269.jpg


          “ตัวอย่างการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ที่มักจะเกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน เนื่องจากภายในบ้านมีสายไฟที่ทำจากพลาสติกประเภท PVC ที่มีสารอโรมาติกส์คลอไรท์เป็นองค์ประกอบอาจทำให้เกิดสารไดออกซิน (Dioxins) หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำจากพลาสติกไม่ติดไฟอย่าง โทรทัศน์หรือโทรศัพท์ หากเกิดการเผาไหม้ก็สามารถเกิดสารพิษชนิดนี้ได้


          ซึ่งสารที่มีสมบัติคล้ายสารไดออกซิน คือ สารกลุ่มโพลี คลอริเนตเตท ไดเบนโซพารา ไดออกซิน (Polychlorinated dibenzo-para-dioxins: PCDDs) โพลีคลอริเนตเตท ไดเบนโซ ฟูแรน (Polychlorinated dibenzo furans: PCDFs) และโพลีคลอริเนตเตทไบฟีนิล (Dioxins–like polychlorinated biphenyls: DL-PCBs)” นายคงศักดิ์อธิบาย


  ‘สาร Bisphenol A (BPA)’


          “สำหรับสาร Bisphenol A (BPA) ไม่ใช่สารก่อมะเร็งอย่างแน่ชัดอย่างที่มีการแชร์ข้อมูลกันแต่แค่มีผลทดลองว่ามีส่วนเร่งให้เกิดเนื้องอกในอัณฑะของหนูตัวผู้แต่ยังไม่เคยมีการทดลองในคนแต่อย่างใด สารตัวนี้เป็นสารที่อาจตกค้างในพลาสติกประเภท พอลิคาร์บอเนต (Polycarbonate, PC) ซึ่งเคยใช้ผลิตเป็นขวดนมเด็ก แต่พบว่าอาจมีการปนเปื้อนของสาร Bisphenol A (BPA)


          เมื่อให้ความร้อนในระดับสูงโดยเฉพาะในขณะอบฆ่าเชื้อ ทำให้ปนเปื้อนในน้ำนมได้ ทำให้มีการยกเลิกการใช้พลาสติกประเภทนี้ในการผลิตเป็นขวดนมเด็ก ซึ่งประเทศไทยเองก็ไม่ได้ใช้พลาสติกชนิดนี้ในการผลิตขวดนมสำหรับเด็ก แต่จะใช้พลาสติกประเภท โพลีซัลโฟน ( Polysulphone) และพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) แทน” ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและสารสนเทศฯ สถาบันพลาสติก อธิบายเพิ่มเติม


/data/content/24575/cms/e_fghmpvxyz239.jpg


          ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและสารสนเทศฯ สถาบันพลาสติก บอกอีกว่า การปนเปื้อนสาร Bisphenol A (BPA) ของน้ำดื่มจากขวดพลาสติกไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะขวดน้ำพลาสติกที่ใช้กันส่วนใหญ่ทำมาจากขวด PET หรือ พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene terephthalate,PET) จะไม่มีสาร Bisphenol A ปนเปื้อนเลย เพราะสารชนิดนี้อาจจะพบได้ในพอลิคาร์บอเนต (Polycarbonate, PC) เท่านั้น


          “ที่สำคัญคือ สาร Bisphenol A ไม่ใช่สารก่อมะเร็งและหากมีการปนเปื้อนเกิดขึ้น จะส่งผลต่อระบบฮอร์โมนของร่างกาย ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดเพี้ยน มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนหญิงเพิ่มมากขึ้น  และอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กทารกด้วย” ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและสารสนเทศฯ สถาบันพลาสติก


“สาร PCB (Polychlorinated biphenyl)”


          สาร PCB (Polychlorinated biphenyl) เป็นสารพิษที่เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์แบบเดียวกับสารไดออกซิน (Dioxins) และเป็นสารพิษกลุ่มเดียวกัน ซึ่งสารพิษทั้ง 3 ชนิด จะไม่สามารถปนเปื้อนในน้ำดื่มได้อย่างแน่นอน


          ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและสารสนเทศฯ สถาบันพลาสติก ฝากทิ้งท้ายว่า ข้อควรระวังของน้ำดื่มจากขวดพลาสติกคือ การปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากการยกขวดน้ำขึ้นดื่มจากปาก จึงไม่ควรยกน้ำดื่มจากขวดโดยตรง แต่ควรเทใส่แก้วดื่ม หรือควรดื่มให้หมดครั้งเดียว เพราะแบคทีเรียภายในปากอาจปนเปื้อนทำให้เกิดการเจริญเติบโตในขวดน้ำได้


 


 


          เรื่องโดย พิมพ์ชนก ศรเพชร Team content www.thaihealth.or.th  

Shares:
QR Code :
QR Code