ฉีดน้ำทั่วกทม.ดับฝุ่น – แจกหน้ากากN95หมื่นชิ้น

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ


ฉีดน้ำทั่วกทม.ดับฝุ่น PM2.5-แจกหน้ากากN95หมื่นชิ้น thaihealth


แฟ้มภาพ


รถดับเพลิงทั้งของกรุงเทพฯ และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่จอดเรียงรายอยู่นี้เป็นหนึ่งในมาตราการระยะสั้น ก่อนที่จะใช้แผนอื่นๆ เพื่อยกระดับในการควบคุมมลพิษทางอากาศที่อยุ่ในระดับเริ่มกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วกรุง


หลังการหารือเร่งด่วน ระหว่าง กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ สำนักสิ่งเเวดล้อมกทม. สำนักอนามัย  กองบังคับการตำรวจจราจร กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อหามาตราการด่วน แก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปกคลุมในกทม.เริ่มกระทบสุขภาพประชาชน 


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. กล่าวว่า ช่วง 2-3วัน เกินค่ามาตราฐาน 30 จุด แผนเร่งด่วน ตั้งแต่เย็นวันนี้ จนถึงรุ่งเช้า กทม.จะระดมรถดับเพลิง รถฉีดน้ำ ล้างพื้นผิวถนน ในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินค่ามาตราฐาน พร้อมกับแจกจ่ายหน้ากากอนามัย ชนิด N95 จำนวน1หมื่นชิ้น ลดผลกระทบกับประชาชน พร้อมให้สาธารณสุขระดมมาอีก โดยวันนี้ ได้ระดมรถดับเพลิง เครื่องฉีดพ่นละลองน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ จนกว่ามลพิษทางอากาศจะหมดไป


ผู้ว่า กทม. ยอมรับว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ผลกระทบจากการก่อสร้าง สั่งการให้ ทั้ง 50 เขต หมั่นล้าง ทำความสะอาดถนน และ เส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทำต่อเนื่องทุกช่วงเวลากลางคืน และ ช่วงเช้า พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำในอากาศ เป็นประจำทุกวัน บังคับใช้กฏหมายควบคุมการก่อสร้าง 


นายประลอง ดำรงต์ไทย อธิบดี คพ. ระบุว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกิดขึ้น 365 วัน มีทุกวันแต่อากาศมันลอยขึ้นสู่ทองฟ้าได้ดี  เมื่อมีรถวิ่งฝุ่นก็เกิด ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน พร้อมยืนยันว่า ยังไม่เรียกว่าสถานกาณ์วิกฤต หากวิกฤต คือต้องมีค่ามลพิษ ระดับเกิน 100 ติดต่อกันนาน 3 วัน พร้อมประเมินว่าจะเผชิญไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุที่กำหนดค่าตามเกณฑ์องค์การอนามัยโลกไม่เหมือนกันเพราะบริบทแตกต่างกันเช่นการใช้รถยนต์ และพลังงานเชื้อเพลิง


ตัวแทนฝนหลวงและการบินเกษตร ตามสภาพอากาศมีข้อจำกัด เส้นทางการบินมีการขึ้นลงเครื่อง สุวรรณภูมิหนาแน่น ช่วงนี้หน้าหนาว ความชื้นต่ำ ต้องมีความชื้น 60% ขึ้นไป แต่ในช่วงสัปดาห์หน้า 15-18 มกราคม คาดว่า จะมีความชื้นมากขึ้น ลมจะเป็นทิศตะวันออก จะตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่ระยอง ตัวเเทนกรมฝนหลวงกล่าวว่า จะต้องมีความสัมพันธ์ของลม ดังที่ระยองจะพัดทางตะวันออกเข้ามา จะกระทบจราจรทางออากาศ 


ส่วนตัวเทน กรมอนามัย บอกว่า ยังไม่พบผู้ป่วยทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราจะดูการเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจ ถุงลมโป่งพอง เนื่องจากฝุ่นขนาดเล็ก จมูกไม่สามารถกรองได้ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีนัยสำคัญที่บ่งบอกว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าปกติ แต่ตอนนี้ยังเก็บข้อมูลทุกวัน ตามโรงพยาบาลทุกวัน ส่วนที่ 2 ดำเนินการจรวจวัดคุณภาพอกาศในโรงเรียน นอกเหนือจากข้อมูลที่ได้จากการจราจร เนื่องจากมีนักเรียน อยู่จำนวนมาก เพื่อดูแลกลุ่มเสี่ยง

Shares:
QR Code :
QR Code