‘ฉะเชิงเทรา’ประกาศเมืองน่าอยู่
แห่งแรกในไทย
จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือที่คนเก่าแก่เรียกว่า แปดริ้ว มีคำขวัญว่า “แม่น้ำบางปะกงแหล่งชีวิต พระศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโสธร พระยาศรีสุนทรปราชญ์ภาษาไทย อ่างฤๅไนป่าสมบูรณ์” โดยมีองค์หลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไป จังหวัดฉะเชิงเทรานั้นจึงเป็นเมืองแห่งธรรมะ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดการเสวนา “หนึ่งมหาวิทยาลัย หนึ่งจังหวัดเพื่อแปดริ้วเมืองน่าอยู่” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ และประกาศเจตนารมณ์ “แปดริ้วเมืองน่าอยู่” โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมประกาศเจตนารมณ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศที่ประกาศเจตนารมณ์
นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ชาวฉะเชิงเทราเป็นคนที่มีจิตใจดีมีเหตุมีผล เป็นคนที่รักบ้านรักเมือง รักความสงบ รักความร่มเย็น คนฉะเชิงเทรามีภราดรภาพ มีวัฒนธรรมและประเพณีดี ๆ ที่จังหวัดอื่น ๆ ไม่มี และมีหลวงพ่อโสธรที่เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป จึงทำให้จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเมืองน่าอยู่
ด้านนายสมพร ใช้บางยาง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การที่จะทำให้แปดริ้ว หรือฉะเชิงเทราเป็นเมืองน่าอยู่นั้น ต้องพัฒนาองค์ความรู้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น เมื่อประชาชนมีความรู้ ย่อมทำให้บ้านเมืองน่าอยู่ รวมถึงเรื่องของสุขภาวะ ต้องพัฒนาทั้งกาย ใจ ปัญญาสังคมให้กับประชาชนในท้องถิ่น และถ้าสามารถนำความรู้จากมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ออกไปสู่ชุมชน สู่ชาวบ้าน สู่ท้องถิ่นได้ และเชื่อมั่นว่าจะไปเติมเต็มในส่วนที่ชุมชนขาด ถ้านำทั้งหมดนี้มารวมกัน เชื่อมั่นว่าจะทำให้สังคมเข้มแข็งและน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ส่วน ผศ.เอนก เทพสุภรณ์กุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ มีปรัชญาเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ที่ผ่านมาได้ให้บริการทั้งวิชาการและวิทยาการสู่ท้องถิ่นมาโดยตลอด นอกจากนั้นยังได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการและภาคประชาชนมาให้คำแนะนำ
ในการดำเนินภารกิจให้สอดคล้องกับนโยบายจังหวัด และได้รับการมอบหมายให้ช่วยขับเคลื่อนในเรื่องชุมชุนเข้มแข็ง การสร้างครอบครัวอบอุ่น สิ่งแวดล้อม การผลิตบัณฑิตให้พร้อมไปทำงานในภาคธุรกิจและสถานประกอบการ การผลิตและพัฒนาครู การวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ เป็นต้น และมหาวิทยาลัยจะจัดตั้งศูนย์ประสานงานแปดริ้วเมืองน่าอยู่ เพื่อรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ ของจังหวัดให้มากที่สุดเพื่อเป็นศูนย์กลางของแปดริ้วเมืองน่าอยู่
ผศ.เอนก กล่าวอีกว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ได้จัดให้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานพัฒนาสุขภาวะชุมชน ระดับตำบลปีที่ 1 “ตำบลนี้ที่น่าอยู่” ประกอบด้วย อบต.หนองแหน อ.พนมสารคาม อบต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น และ อบต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา นอกจากนั้มหาวิทยาลัยได้จัดพิธีลงนามโครงการตำบลสุขภาวะปีที่ 2 ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 15 องค์กร ประกอบด้วย อบต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า อบต.บางคา อ.ราชสาส์น อบต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น อบต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน อบต.คลองขุด อ.บ้านโพธิ์ อบต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ อบต.บางกรูด
อ.บ้านโพธิ์ เทศบาล ต.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ อบต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว อบต.บางเกลือ อ.บางปะกง อบต.บางเตยอ.เมือง อบต.นครเนื่องเขต อ.เมือง อบต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม เทศบาล ต.สนามชัยเขต อ.สนามชัยเขต เทศบาล ต.ดอนเกาะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว โดยมีนายสมพร นายบัณฑิต นายกลยุทธ และ ผศ.ดร.กุลวดี โรจน์ไพศาลกิจ หัวหน้าโครงการร่วมเป็นสักขีพยาน
คงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การที่จะทำให้สังคมชุมชนน่าอยู่นั้น ใช่ว่านโยบายที่สวยหรูจะทำให้ชุมชนหรือท้องถิ่นน่าอยู่ แต่การร่วมไม้ร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงรากหญ้าที่ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมต่างหาก เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สังคมน่าอยู่
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
update : 09-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร