‘จับไม่ปรับ เข้ารับอบรม’ ปลูกจิตสำนึกขับขี่ที่ปลอดภัย
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ภาพประกอบจากสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
กองบังคับการตำรวจจราจร นำร่องจัดโครงการจับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ทำผิดกฎจราจร เข้ารับการอบรมแทนการเสียค่าปรับ เพื่อเป็นการกระตุ้นและปลูกจิตสำนึกให้เห็นถึงอันตรายบนท้องถนนและหันมาใช้รถใช้ถนนด้วยความไม่ประมาท
กลายเป็นภาพที่เกิดขึ้นแทบทุกครั้งกับความไม่เข้าใจกันระหว่างประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนกับตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศ แม้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย
แต่ที่ผ่านมา ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าการจับกุมผู้กระทำความผิดวินัยจราจร อาจเป็นความตั้งใจที่ต้องการส่วนแบ่งที่ได้จากใบสั่งหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันข้อครหาที่เกิดขึ้น กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. นำร่องจัดทำโครงการจับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม เพื่อสร้างความตระหนักในความปลอดภัย และสร้างวินัยจราจรให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน
สำหรับโครงการจับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎจราจรและได้รับใบสั่งที่ออกโดยตำรวจจราจร ใน 12 ข้อหา ได้แก่ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และคนโดยสารไม่สวมหมวกนิรภัย ผู้ขับขี่-คนโดยสารไม่รัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย ขับรถในขณะที่ใช้โทรศัพท์ ขับรถแซงเมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย นำรถสภาพที่ไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้ ไม่ขับรถด้วยอัตราความเร็วที่กำหนด ขับรถย้อนศร ขับรถจักรยานยนต์บรรทุกคนเกินจำนวนที่นั่ง ขับรถเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรบนพื้นทาง ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไม่แต่งกาย ตามที่กฎหมายกำหนด สามารถเลือกเข้ารับการอบรม ณ หน่วยที่ออกใบสั่ง แทนการชำระค่าปรับ
ทั้งนี้ ผู้กระทำผิดสามารถเข้ารับการอบรมแทนการเสียค่าปรับได้เพียง 1 ครั้ง โดยจะเริ่มจัดการอบรมตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน จนถึง30 ธันวาคม 2560 โดยใช้เวลาการอบรมในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 10.00 – 11.00 น. ซึ่งหากกลับมากระทำผิดอีกครั้ง จะถูกเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ตามที่ตำรวจกำหนดอย่างเคร่งครัด
การทำความเข้าใจและสร้างการตระหนักรู้ คิดถึงผลเสียและผลกระทบในการฝ่าฝืนกฎจราจรบนท้องถนน ในโครงการจับไม่ปรับ เข้ารับการอบรม จึงเป็นอีกหนึ่งความหวัง ที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นความหวังที่จะทำให้คนไทยหันมาใส่ใจวินัยจราจร ที่จะเป็นกระจกสะท้อนวินัยของคนไทยได้ในอนาคต พร้อมๆ กับการสร้างความเชื่อมั่นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรเป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ นอกจากความปลอดภัยของประชาชนที่จะเกิดขึ้นกับการใช้รถใช้ถนน