จัดหาวัคซีนป้องกันปอดบวม

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


จัดหาวัคซีนป้องกันปอดบวม thaihealth


แฟ้มภาพ


          มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย รณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี ตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคปอดบวม เดินหน้าสานต่อโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมค็อกคัส เพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยงปีที่ 3 ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทย โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 12 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันปอดบวมโลก หรือ World Pneumonia Day


          รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส สาเหตุที่พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ถึง 1 ใน 3 มาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Streptococcus pneumoniae 2 หรือ "เชื้อนิวโมค็อกคัส" ผู้ป่วยปอดบวมจะมีอาการไข้ ไอ และหอบเหนื่อย บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กแรกคลอดถึง 5 ขวบปีแรก และผู้สูงอายุซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ


          จากข้อมูลเฝ้าระวังโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-21 ตุลาคม 2561 ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยปอดบวมแล้วมากกว่า 230,000 ราย เสียชีวิต 184 คน โดยกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด 2 อันดับแรก คือ ผู้สูงอายุมากกว่า 55 ปี และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 1 ปี สองกลุ่มรวมกันคิดเป็นร้อยละ 50 ของผู้ป่วยทั้งหมด


          นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน และอดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ปีนี้มูลนิธิยังคงเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ในโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมค็อกคัส เพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการที่จัดขึ้นต่อเนื่องจะสามารถป้องกันการติดเชื้อนิวโมค็อกคัส ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคปอดปวมในเด็กกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะส่งผลในการช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิต รวมถึงป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไม่ให้ระบาดในชุมชนต่อไปอีกด้วย สำหรับในประเทศไทยมีเด็กเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมค็อกคัสเพียง 10% ซึ่งก็อยู่ในแผนระยะยาวของเราที่จะผลักดันให้วัคซีนนี้บรรจุอยู่ในวัคซีนพื้นฐานเช่นกัน


          รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวว่า ปีที่แล้วทางสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กฯ ได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคไอพีดีเพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง จำนวน 5,000 โดส แก่โรงพยาบาล 27 แห่ง ซึ่งมีเด็กในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคไอพีดีได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันไปแล้วมากกว่าหลายพันคน และในปีนี้เรายังคงเดินหน้าส่งมอบวัคซีนอีก 5,000 โดส เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้เพิ่มขึ้นและทั่วถึงยิ่งขึ้น


          "เมื่อใดที่ภาครัฐสนับสนุนให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมค็อกคัสบรรจุอยู่ในวัคซีนพื้นฐานให้เด็กไทยทุกคน จะมีประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นในข้อมูลของหลายประเทศที่บรรจุวัคซีนนี้เป็นวัคซีนพื้นฐานแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ นอร์เวย์ เดนมาร์ก สเปน พบว่าไม่เพียงแต่เด็กที่ได้รับวัคซีนจะมีโอกาสเกิดโรคลดลง แต่ในผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับวัคซีนก็ได้ประโยชน์ในการลดโอกาสการติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะวัคซีนจะไปลดปริมาณเชื้อที่อยู่ในลำคอของเด็ก เมื่อเชื้อที่คอลดลง การแพร่กระจายโรคในชุมชนก็ลดลงด้วยนั่นเอง" รศ.(พิเศษ) นพ.ทวีกล่าวทิ้งท้าย.


 

Shares:
QR Code :
QR Code