งาน’มติชนเฮลท์แคร์’ กระตุ้น ใส่ใจสุขภาพ
สุขกาย สบายจิต พิชิตเครียด
‘มติชน‘ร่วมกระตุ้นคนไทยใส่ใจสุขภาพ จับมือองค์กรพันธมิตรจัดงาน‘เฮลท์แคร์ ดูแลสุขภาพ‘ ครั้งที่ 2 วันที่ 17-20 มิถุนายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำเยียวยาสุขภาพจิตที่เครียดจากการเมือง มูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรนำสมุนไพรคลายเครียดไปแจกฟรี สาธิตทำสปาสูตรนางผมหอม
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยนิตยสารhospital & healthcare นิตยสารสุขภาพรายเดือนอภินันทนาการพิเศษจากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ร่วมกับองค์กรพันธมิตร ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และโรงพยาบาลกรุงเทพ จัดแถลงข่าว “มติชนเฮลท์แคร์…ดูแลสุขภาพ” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายนที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริเวณโซน c และพลาซ่า ภายใต้ธีม “สุขกาย สบายจิต พิชิตเครียด”
เมื่อวันที่9 มิถุนายน นายณรงค์ จุนเจือศุภฤกษ์ รองประธานบริษัท มติชนกล่าวว่า หลังจากที่งานมติชนเฮลท์แคร์ ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2552 ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี ปีนี้บริษัท มติชน จึงได้เชิญองค์กรพันธมิตรร่วมจัดมหกรรมสุขภาพ”มติชนเฮลท์แคร์ ดูแลสุขภาพ” ครั้งที่ 2 อีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ และมีส่วนร่วมเยียวยาสุขภาพจิตคนไทยจากปัญหาวิกฤตการณ์การเมืองและเศรษฐกิจ
“ในปีนี้คนไทยประสบกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรงทางการเมือง ซึ่งนอกจากจะกระทบต่อสุขภาพทางกายแล้ว ยังส่งผลกระทบทางจิตโดยเฉพาะในเรื่องความเครียด ซึ่งบริษัท มติชนได้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าว จึงมีการนำกิจกรรมและบริการด้านสุขภาพจิตมาเสริมให้งานในปีนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น” นายณรงค์กล่าว และว่าสำหรับไฮไลต์ของงานนี้จะอยู่ที่การให้บริการตรวจสุขภาพฟรีจากสถานพยาบาลชั้นนำที่มีให้เลือกมากกว่า 20 รายการ อาทิ ปรึกษาปัญหาสุขภาพที่เกิดจากความเครียด โดยกรมสุขภาพจิต,ตรวจประเมินภาวะเบาหวานขึ้นตา โดยองค์การเภสัชกรรม, ประเมินความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งโดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์, ตรวจกำลังกล้ามเนื้อต้นขาและวัดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น” นายณรงค์กล่าว และว่า ปีที่ผ่านมา มีประชาชนมาร่วมตรวจสุขภาพกันมาก ทำให้ไม่สามารถให้บริการตรวจสุขภาพได้อย่างทั่วถึง ในปีนี้จึงได้มีการจัดคิวการตรวจรักษาให้เป็นระบบมากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับผู้ร่วมงานมาตรวจสุขภาพมากขึ้น
นายณรงค์กล่าวว่า การจัดงานปีนี้ ยังมีการจัดโซนนิทรรศการสุขภาพ ในหัวข้อ “สุขภาพจิตดี อาหารดี และชีวีแข็งแรง” ภายใต้บรรยากาศสวนพฤกษศาสตร์กลางกรุง พร้อมทั้งได้ประสานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนำสมุนไพรคลายเครียดไปแจกในงาน เช่นมหาหงส์ ขมิ้นชัน เชียงดา และเปราะหอมจำนวนจำกัดวันละ 200 ต้น รวมทั้งยังมีการสาธิตสปาผมสูตรนางผมหอม การทำน้ำอบน้ำปรุงและการทำธูปหลับ ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 100,000 คน
ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่าภายหลังการชุมนุม สธ.ได้แบ่งประชาชนออกเป็น2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ร่วมชุมนุม และกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบเชิงชุมชน ซึ่งประชาชนกลุ่มแรกจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจอย่างเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา สธ.ได้ส่งทีมนักจิตวิทยาเข้าไปลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจให้เหมือนเดิม ส่วนประชาชนกลุ่มสอง ได้มีการส่งหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนและทีมนักจิตวิทยาเข้าไปให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่ว กทม. ทั้งนี้สุขภาพกายเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ ซึ่งจากการสำรวจสุขภาพประชาชนทุก 5 ปี พบว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และจำนวนผู้ที่ดื่มสุรา ทั้งนี้ กลับพบว่าคนไทยมีปัญหาโรคอ้วนมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการรณรงค์และสร้างกระแสให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการออกกำลังกาย ซึ่งการที่บริษัท มติชนจัดมหกรรมสุขภาพในครั้งนี้ขึ้นจะช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงภาวะการมีสุขภาพดี ทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย
ขณะที่นายสมบัติ คุรุพันธ์ อธิบดีกรมพลศึกษากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานมหกรรมเพื่อสุขภาพ เป็นงานที่รวบรวมความรู้ทุกแง่มุมของการมีสุขภาพดี ถือได้ว่าเป็นการตัดวงจรโง่ เจ็บ และจน เพราะหากมีสุขภาพที่ดีแล้วก็จะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอจะยิ่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
“อยากฝากข้อคิดไว้ 3 ประการ คือ โรงพยาบาลที่ดีที่สุด ไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นบ้านของเรายารักษาโรคที่ดีที่สุด ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนหากไม่ออกกำลังกาย และสุดท้ายหมอที่เก่งที่สุดคือตัวเราเอง” นายสมบัติกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
update: 10-06-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ