งดเหล้าเท่ากับงดการเสพสิ่งทำลายสติปัญญา

ในช่วงระหว่างนี้ เรายังคงอยู่กับช่วงเข้าพรรษา ตลอด 3 เดือนนี้ มีสิ่งสำคัญหลากหลายที่จะชวนให้ทำดีในพรรษานี้ โดยเฉพาะการงดเหล้าเข้าพรรษาที่ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายกับผู้คนที่ต้องเอาชนะใจตนเอง ชนะใจกับอบายมุขนี้ให้ได้


งดเหล้าเท่ากับงดการเสพสิ่งทำลายสติปัญญา


แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน บอกกล่าวไปยังผู้ที่ต้องการและยึดมั่นที่จะทำดีในพรรษานี้ว่า หากยังมีชีวิตอยู่ขณะสุดท้ายของชีวิต อยากให้ลองคิดดูว่าจะอยากอยู่อย่างไร อยากอยู่อย่างตายทั้งเป็นหรืออยู่อย่างสงบเย็นและเป็นสุข หากคิดว่าจะเลือกอยู่อย่างสงบเย็นและเป็นสุข ต้องงดทุกอย่างที่จะทำให้คุณอยู่อย่างตายทั้งเป็น เวลาที่เราพบว่าเราตัดสินใจดีแล้ว กำลังใจจะกลับมา จะเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับหัวใจของคุณได้ และนั่นคือการงดที่ดีที่สุดตลอดชีวิตของคุณ งดเหล้าเท่ากับงดการเสพสิ่งที่ทำลายสติปัญญา งดได้เมื่อไหร่ก็งอกงามได้เมื่อนั้น


อย่างที่ทราบกันดีว่าการงดของมึนเมานั้นนับเป็นหนึ่งในศีลห้าข้อ ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติ ซึ่งในเรื่องนี้แม่ชีศันสนีย์พูดได้อย่างน่าสนใจว่า เรื่องของศีลของ 5 หากไม่สามารถละได้ในข้อนี้ ข้อ 1-4 จะบกพร่องมากที่สุด เวลาที่ทำลายสติปัญญา ก็จะทำผิดศีลข้ออื่นได้ด้วย ก็หวังว่าเวลาที่มีกำลังใจในการบอกกับตัวเองว่าเราทำได้ทันที ก็คือทันที ก็คือการเจริญสติปัญญา หากมีสติปัญญาอารักขาได้เมื่อไหร่ ก็จะไม่กลับไปเสพสิ่งที่ทำลายสติปัญญา เพราะสติปัญญาเป็นดังขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้คุณรู้ตื่นและเบิกบาน มาช่วยกันทำให้ชีวิตเบิกบานอยู่ด้วยธรรม แล้วจะพบว่าเราจะไม่กลับไปในสิ่งที่เคยเดินผ่านมาและอยู่อย่างตายทั้งเป็น


“ในบางเรื่องที่เราอาจคิดว่าเราจะผ่านหรือไม่ผ่าน กลับมาหายใจลึกๆ แล้วถามตัวเองว่าขณะที่กายอยู่ที่นี่ใจรู้ตื่นและเบิกบานที่นี่ ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ ทุกอย่างเป็นการเดินทางที่จะทำให้คุณเข้าถึงเป้าหมายได้ อย่าหลงทางเสียก่อน ตัดสินใจสตาร์ทมาดีแล้ว ตั้งสติอีกหน่อยถึงเป้าหมายแน่นอน ถ้าคุณกลับไปดื่มอีก แม้แต่หยดเดียว คุณต้องไปตั้งหลักที่จะต้องสตาร์ทอีกครั้ง อย่างหนักกว่าค่ะ ไหนๆ ก็เดินทางมาแล้ว แม้จะมีมารเข้ามาบ้าง ลองกลับไปที่ลมหายใจแห่งสติ และบอกกลับตัวเองว่าหากไม่มีมาร ปัญญาก็ไม่เกิด มันมาแค่ล่อคุณเท่านั้น เห็นมารมา จ๊ะเอ๋แล้วบ๊ายบายแล้วก้าวต่อไปเลย คุณทำได้ค่ะ”


แม่ชีศันสนีย์ ยังบอกอีกว่า “มีคนหลายคนบอกว่าผู้หญิงมักตกเป็นเหยื่อ แม่บอกกับผู้หญิงด้วยกันว่าเราเป็นมนุษย์ที่แท้ เราไม่ได้เป็นแค่เหยื่อ ตอนนี้ผู้หญิงดูเหมือนเราจะตกเป็นเหยื่อก็จริง ถ้าเราไม่มีสติปัญญา เราจะกลายเป็นผู้หญิงที่ล่าเหยื่อเสียเอง อันนั้นน่ากลัวมาก ดังนั้นตอนนี้รักษาความเป็นมนุษย์เอาไว้ อย่าทำให้กลายเป็นเหยื่อ แต่เป็นมนุษย์ที่แท้ เมื่อไม่เป็นแค่เหยื่อแล้ว เราก็จะไม่เป็นคนที่ล่าเหยื่อด้วย อยากให้รู้ว่าความงดงามของผู้หญิงไม่ได้อยุ่ที่ความเก่ง แต่อยู่ที่คุณจะอยู่ได้อย่างรอดปลอดภัยจากสติปัญญาของคุณเอง เป็นผู้หญิงที่แท้อย่ามักง่ายและเป็นเหยื่อของการเสพสิ่งที่ทำลายสติปัญญา คุณทำได้”


ไม่ว่าจะเป็นเพศใด วัยใดก็ตาม หากแม้นตั้งมั่นที่จะทำดี ในระยะพรรษานี้ยังมีเวลาเหลืออยู่ที่จะทำได้ หากตั้งสติให้กับตัวเอง และตั้งมั่นกับสิ่งที่ทำ เชื่อได้ว่าปัญญาก็จะเกิดตามมาได้อย่างไม่ยากเย็น


 


 


 


เรื่องโดย : สุนันทา สุขสุมิตร Team content www.thaihealth.or.th


 

Shares:
QR Code :
QR Code