งดเหล้าเข้าพรรษา ละบาป เพิ่มพูนกุศลสร้างบุญฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี
เริ่มต้นเข้าเทศกาลเข้าพรรษา หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยังดำเนินการรณรงค์ชักชวนให้คนไทยงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อสร้างบุญถวายเป็นพุทธบูชาเฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเข้าพรรษานี้ให้ทุกคนทำความดี ให้เห็นคุณค่าของตัวเอง พร้อมที่จะปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุขเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ เพราะที่ผ่านมามีหลายชีวิต หลายครอบครัวที่ก้าวพลาด หรือได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ส่วนนักดื่มที่กำลังลังเลไม่แน่ใจจะเลิกเหล้าหรืองดเหล้าเข้าพรรษาเพื่ออะไรดร.พระมหาสุทิตย์ อาภากโร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพระพุทธศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งก่อนหน้านี้ร่วมรณรงค์และขับเคลื่อนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา รวมถึงประเด็นลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างต่อเนื่องกล่าวเสริมสร้างพลังใจให้นักดื่มที่ตกในวังวนน้ำเมาว่าปุถุชนธรรมดามีทั้งฝ่ายกุศลและอกุศลในตนเอง ซึ่งการบริโภคสุรายาเมานั้นอยู่ในฝั่งอกุศล เนื่องจากเป็นการเบียดเบียนตัวเองทั้งเรื่องสุขภาพและการเงินรวมถึงเบียดเบียนผู้อื่นหากดื่มแล้วเมาเกิดอุบัติเหตุเข้าพรรษา 3 เดือนในปี พ.ศ. 2555 นี้ จึงอยากเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันเพิ่มพูนธรรมฝ่ายกุศลให้กับตัวเอง รักษาศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้คุณงามความดีปรากฏมากยิ่งขึ้นหากเลิกเหล้าได้ยังสามารถรักษาทรัพย์ รักษาครอบครัว และสังคมให้ดีขึ้น
“ถ้าไม่มีน้ำเมาชีวิตมนุษย์จะสมบูรณ์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้คนเราขาดสตินำไปสู่การผิดศีลข้ออื่นๆการงดเหล้าเข้าพรรษาจะทำให้เกิดอานิสงส์ จิตใจผ่องแผ้ว สุขภาพร่างกายไม่ทรุดโทรมเพราะพิษน้ำเมา และหากจะเลิกเหล้าตลอดชีวิตยิ่งดีใหญ่ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า การทำความดีไม่จำกัดด้วยกาลเวลา จงทำดีทุกชั่วขณะ ทำวันไหนดีวันนั้น ส่วนเทศกาลเข้าพรรษาตามโบราณ พระสงฆ์จะหยุดอยู่จำวัดเพื่อการศึกษาและปฏิบัติให้เข้าถึงบรรลุพระธรรมได้มากขึ้น ขณะที่ชาวพุทธถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เพิ่มโอกาสในการลด ละ เลิกสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ได้ใกล้ชิดศาสนามากขึ้น ซึ่งปีนี้เป็นปีพุทธชยันตี หากตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษาจะได้รับบุญยิ่งใหญ่” ดร.พระมหาสุทิตย์ อาภากโร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพระพุทธศาสตร์ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สร้างผลกระทบในหลายชุมชนหลายครอบครัวมีปัญหาถาโถมจากการที่คนในครอบครัวติดเหล้า ซึ่งพระแกนนำเรื่องหยุดน้ำเมากล่าวว่า ทางสถาบันให้ทุนสนับสนุนครูอาจารย์เพื่อศึกษากระบวนการลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การพนัน และอบายมุข เน้นกระบวนการศึกษาในพื้นที่ พูดคุยแลกเปลี่ยนกับพระสงฆ์ ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน เพื่อให้รับรู้ข้อมูลปัญหาที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงและประโยชน์นานัปการจากการเลิกเหล้า ขณะนี้ดำเนินการแล้วในหลายชุมชน แม้จะไม่เป็นชุมชนปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์100 เปอร์เซ็นต์ แต่คนในชุมชนมีแนวโน้มลดปริมาณการดื่มมากขึ้นตอนนี้มีชุมชนใน จ.แพร่ และขอนแก่น เป็นชุมชนนำร่อง เตรียมขยายผลในพื้นที่อื่นๆด้วย เน้นมิติพุทธศาสนาเข้าขับเคลื่อนกระบวนการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยมีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมให้ทุนสนับสนุนด้วย
“นอกจากงดเหล้าเข้าพรรษา ยังชักชวนทำกิจกรรมงานบุญประเพณีปลอดเหล้า ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ หลายพื้นที่สถานการณ์การดื่มดีขึ้นหัวใจของการทำงานเลิกเหล้าต้องร่วมพลังกันทั้งฝ่ายพระสงฆ์ องค์กรปกครองท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และคนในชุมชน เพราะสถิติการดื่มสุราของคนไทยยังติดอันดับต้นๆ ของโลก ต้องทำอย่างต่อเนื่องจากจุดเล็กๆขยายเป็นภาพใหญ่ ทุกวันนี้พยายามทุกทาง แล้วยังต้องต่อสู้กับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีกลยุทธ์ต่างๆให้คนติดมันให้ได้” ดร.พระมหาสุทิตย์ อาภากโร กล่าว
ตลอดระยะเวลา 3 เดือนนี้ นักดื่มที่ตั้งปณิธานเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคนที่คิดจะงดเหล้าเข้าพรรษา ดร.พระมหาสุทิตย์ อาภากโร ให้กำลังใจ และสร้างความมั่นใจในการทำความดีนี้ว่า ขอให้อดทนอดกลั้น มีจิตใจที่เข้มแข็ง สู้กับความอยากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากสภาพจิตใจที่มุ่งมั่นแล้ว ปัจจัยสภาพแวดล้อมหรือสภาพสังคม รวมถึงคนในครอบครัว ชุมชน เป็นพลังใจให้นักดื่มลดละ เลิก เห็นคุณค่าของตัวเอง ที่สำคัญใครที่ไม่เลิกเหล้าต้องไม่ชักชวนผู้ที่งดเหล้าเข้าพรรษา หรือพูดจาเหน็บแนม เช่น จะอดเหล้าไปทำไม เพื่ออะไรเดี๋ยวก็ตายแล้ว และไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเมาสร้างการยอมรับจากสังคม คนกลุ่มนี้มักชักพากันไปในทางที่เสื่อมหากเลี่ยงได้ก็เลี่ยง และหาโอกาสนำประสบการณ์ที่ได้จากการเลิกเหล้าไปบอกเล่า เพื่อให้พวกเขาปฏิเสธน้ำเมาด้วยในโอกาสที่เหมาะสมต่อๆ ไป
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพระพุทธศาสตร์ยังแสดงทัศนะในการจัดกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาว่า หน่วยงานหรือองค์กรที่ประกาศเชิญชวนให้บุคลากรหรือประชาชน ร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการงดเหล้าเข้าพรรษา ควรจัดให้มีสถานที่เพื่อการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อาจจะใช้วัดเป็นศูนย์กลาง มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องทุกวันพระหรือวันเสาร์อาทิตย์ มีเทศนาธรรม เพื่อสนับสนุนให้คนสามารถลด ละ เลิกได้ตลอด 3 เดือน หรือแม้กระทั่งคนที่กำลังงดเหล้าแล้วเกิดอาการอยากเสพขึ้นมา จะมีแพทย์หรือนักสาธารณสุขคอยให้คำแนะนำที่ใด ต้องเปิดพื้นที่รองรับการทำกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาเพื่อให้เกิดผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น
“แม้เข้าพรรษาจะผ่านมาแล้วกว่าสัปดาห์ แต่การประกอบคุณความดีฝ่ายกุศลจะเริ่มต้นช่วงไหนก็ไม่เป็นไร ขอเพียงเอาชนะจิตอกุศล ละบาป ละความชั่ว สะสมความดีไปเรื่อยชีวิตจะเจริญงอกงาม เข้าพรรษาปีนี้ชวนมาเลิกเหล้าถวายเป็นพระราชกุศลในหลวงและราชินี และเป็นธรรมะบูชา สังฆบูชาในปีพุทธชยันตี และเป็นบุญกุศลให้กับตัวเองและเพื่อครอบครัวกัน”ดร.พระมหา สุทิตย์ อาภากโร กล่าวทิ้งท้าย.
“ถ้าไม่มีน้ำเมาชีวิตมนุษย์จะสมบูรณ์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้คนขาดสตินำไปสู่การผิดศีลข้ออื่นๆงดเหล้าเข้าพรรษาจะทำให้เกิดอานิสงส์ จิตใจผ่องแผ้ว สุขภาพร่างกายไม่ทรุดโทรมเพราะพิษน้ำเมา… หากเลิกเหล้าตลอดชีวิตยิ่งดีใหญ่”
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์