งดเหล้าเข้าพรรษาตั้งสติเอาชนะน้ำเมา

 

สโลแกน “งดเหล้า เข้าพรรษา” เป็นสิ่งที่คนไทยรู้จักมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 6 ตลอดระยะเวลาที่หลายฝ่ายร่วมทำกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์และเข้มแข็ง ต้องถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผลลัพธ์ที่มีถือว่าคุ้มค่า ขณะนี้ตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน มีผู้เข้าร่วมโครงการงดเหล้า เข้าพรรษา เพิ่มขึ้นมากจาก 15% ในปีแรกของการรณรงค์ โดยมีผู้ตั้งสัจจะอธิษฐาน ลด ละ เลิกเหล้า ช่วงเข้าพรรษาเพิ่มขึ้นถึง 55% ในปี 2553 ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มภายในปี 2554 นี้ยังจะมีผู้ที่สนใจไม่ละเมิดศีลด้วยการดื่มสุราและของมึนเมาทุกชนิดเพิ่มขึ้น

แม้ตัวเลขจะไม่ถึง 100% แต่กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาไม่หยุดในการสร้างกระแสสู่สาธารณะ โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ที่สนับสนุนการทำกิจกรรม มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ประชาชนงดดื่มเหล้าในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาให้ได้มากที่สุด เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทางศีลธรรมและสุขภาพ ไม่ปล่อยให้ค่านิยมการดื่มจอมปลอมกัดกร่อนทำลายชาติ ทำลายตัวเอง ทำลายสมองของคนที่ลืมตัวกินเหล้าเมามาย รวมทั้งคนที่ไม่ดื่มแต่ได้รับผล กระทบจากพิษภัยของการดื่ม

จากสถิติของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ชี้ชัดถึงความสูญเสียของประเทศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 26,000 คน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท สำหรับผู้ที่ดื่มเหล้าจะต้องเสียเงินซื้อเหล้าตกปีละประมาณ 54,000 ล้านบาท โดยนักดื่มในกรุงเทพมหานครเสียเงินซื้อเหล้าดื่มสูงสุดเฉลี่ยเดือนละเกือบ 600 บาท ปัญหาจากการดื่มเหล้ายังมีอีกมากทั้งต่อตัวนักดื่ม เป็นต้นเหตุเกิดโรคภัยไข้เจ็บถึง 60 โรค ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง ตับแข็ง โรคเบาหวาน สร้างความสูญเสียรายได้ปีละแสนล้านบาท ทั้งยังเป็นชนวนเกิดปัญหาสังคม ทั้งปัญหาทำร้ายร่างกาย คดีอาญาทางเพศ ความรุนแรงจากพิษน้ำเมา ตลอดจนสถิติอุบัติเหตุจราจร เกือบร้อยละ 50 เกิดจากเมาแล้วขับ ทุกปีมีคนตายนับหมื่นคน บาดเจ็บมากกว่าล้านคนเลยทีเดียว

ปีนี้ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เครือข่ายงดเหล้าร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมรณรงค์ปลุกประชาชน ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถวายเป็นพุทธบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แ ละถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ทั้งยังร่วมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สำหรับกิจกรรมเข้าพรรษานี้หลายพื้นที่เริ่มรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา โดยมีจังหวัดต่างๆ ทั่วไทยเข้าร่วมทำกิจกรรม ด้วยต้องการเห็นเมืองไทยในอนาคตอันใกล้เป็นสังคมปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 37 จังหวัด เช่น นนทบุรี แพร่ ลำพูน ชุมพร สงขลา ขอนแก่น สุรินทร์ สกลนคร ชัยภูมิ ฯลฯ

ซึ่งเครือข่ายงดเหล้ายังจะเดินหน้าสู่เป้าหมายขยายให้ครบทุกจังหวัดภายในปีหน้าอีกด้วย ซึ่งการขับเคลื่อนตามต่างจังหวัดมุ่งเน้นการชักชวนเพื่อนฝูง ครอบครัวและญาติเลิกเหล้าเข้าพรรษา นอกจากนี้ยังทะลุทะลวงลงไปสู่ระดับตำบล หมู่บ้านตามต่างจังหวัด ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีค่านิยมผิดๆ เรื่องการดื่มว่าช่วยสร้างมิตรภาพ เมามายกันเช้ายันค่ำ และนำเรื่องเหล้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานวัฒนธรรมบุญประเพณี ส่งผลให้เด็กและเยาวชนในท้องถิ่นเห็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งก้าวเข้าสู่วงจรนักดื่มตั้งแต่เยาว์วัย ทั้งที่เด็กๆ เหล่านี้คืออนาคตของชาติ ควรได้รับการพัฒนาทางด้านศักยภาพ สุขภาพและจิตใจ แต่ประสิทธิภาพและพลังในการเรียนรู้ถูกบั่นทอนด้วยเหล้า-เบียร์ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการทำกิจกรรมรณรงค์ปลอดเหล้า และเห็นผลสำเร็จในหลายหมู่บ้านที่เป็นต้นแบบชุมชนปลอดเหล้า

พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร กล่าวว่า ในช่วงเข้าพรรษานี้เป็นโอกาสดีที่พุทธศาสนิกชนจะได้ลด ละ เลิกอบายมุข รักษาศีล 5 ตลอดระยะเวลา 3 เดือน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุของปัญหา หากเรามีสติ ประพฤติปฏิบัติดีตามหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะช่วยให้ตัวเองมีคุณค่าและไม่หลงทำในสิ่งที่ผิด การงดเหล้าเข้าพรรษา เป็นอีกโครงการที่ดีเป็นการรักษาศีล และอันที่จริงชาวพุทธควรยึดปฏิบัติอย่างต่อเนื่องนอกพรรษาด้วย ก็เป็นกุศลแก่ตัวเองและสังคม หากดำรงชีวิตในวิถีพุทธจะทำให้ชีวิตตัวเอง ชีวิตครอบครัวพบความสุขความเจริญ การลด ละ เลิกเหล้านั้น สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับจิตใจที่แข็งแกร่งไม่ทำอะไรตามใจตัวเอง คนที่กำลังจะเลิกและจะกลับไปดื่ม ต้องถามหรือทบทวนตัวเอง ชีวิตที่มอมเมากับสุรานั้นดีหรือแย่ ต้องมีสติจะยับยั้งชั่งใจได้ชีวิตก็จะดีขึ้น หากใครตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษานี้ถือเป็นผู้เจริญสติและมีสามัญสำนึกที่ดี แล้วยังเป็นการทำความดีให้กับชาติ

ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ ขอให้พุทธศาสนิกชนหันมาตระหนักถึงคุณค่าในการเลิกเหล้า และปฏิเสธที่จะข้องแวะกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เชื่อว่าจะมีกำลังใจมากมายส่งต่อให้กับผู้งดดื่มพรรษานี้ แต่ทั้งนี้สำคัญสุดคือจิตใจของตัวนักดื่มเองที่ต้องเอาชนะน้ำเมาให้ได้

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

Shares:
QR Code :
QR Code