ค่านิยมใหม่ ไฉไลกว่าเดิม "ยุคนี้ ไม่มีใครให้เหล้ากันแล้ว"!!
ที่มา : ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา
พูดได้ว่า การให้เครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นสุรา เบียร์ หรือไวน์ เป็นของขวัญช่วงปีใหม่หรือเทศกาลสำคัญๆ ได้กระทำกันมาสืบเนื่องยาวนาน แถมสร้างค่านิยมที่ผิดๆ ทำให้คนคิดว่า ยิ่งให้สุราราคาแพงมากเท่าไหรร่ ก็จะเป็นหน้าเป็นตา คนรับก็จะยกย่องให้ความรักความนิยมชมชอบผู้ให้ แต่ทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว
เพราะทุกๆ คน เกิดการตื่นรู้เกี่ยวกับพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นอกจากจะสามารถทำให้เกิดโรคได้มากถึง 200 โรค ตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ยังส่งผลกระทบร้ายแรงในด้านอื่นๆ ด้วย ไมว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือความรุนแรง เช่น ทะเลาะวิวาท หรือแม้แต่คนที่เป็นสามีภรรยายังเกิดมีปากเสียง บางรายถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ย้อนกลับไปคิดู นั่นก็เท่ากับว่า การให้เหล้า เป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ แทนที่จะเป็นเรื่องดี แต่กลับเป็นการแช่งผู้รับให้เจอกับสิ่งเลวร้ายเสียมากกว่า
แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการรณรงค์ "ให้เหล้า = แช่ง" ที่ร่วมมือกันโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย ที่ดำเนินการมาเป็นระยะเวลานานนับสิบปี ไม่เพียงทำให้คนตระหนักรู้ถึงพิษภัยที่จะตามมาจากการให้เหล้าเป็นของขวัญ แต่ยังส่งผลสำคัญต่อการลด ละ และเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อีกด้วย
"ให้เหล้า=แช่ง" แคมเปญรณรงค์ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ได้สร้างแรงกระเพื่อม ให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมสังคมไทยได้อย่างน่าสนใจด้วยการประกาศ โทษจากพิษภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้วแต่ก็ยังนิยมดื่มและส่งเสริมการนำไปมอบให้บุคคลอื่นๆ อีกว่า เป็นการ "ให้เหล้า=แช่ง" คนก็นึกออกทันทีว่ากินแล้วมีปัญหา และคำว่า "แช่ง" ก็ถูกจริตกับวัฒนธรรมเราที่ว่าการแช่งคือมันต้องแย่แน่นอน ถึงต้องแช่ง ซึ่งการให้เหล้าก็นำไปสู่สิ่งที่แย่จริงๆ แม้ว่าจะไม่ได้เกิดตอนนี้ แต่ในอนาคตมันต้องแย่แน่ๆ มันก็เลยโดนใจ พอโดนใจ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการให้ของขวัญปีใหม่
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างแข็งขัน จากกระแสตอบรับที่ผู้ประกอบการต่างให้ความร่วมมือ ไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจัดรวมอยู่ในกระเช้า เป็นการตอบรับและปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เป็นความผิดตามมาตรา มาตรา 30(5)* จะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บ. หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
หลังจากเกิดแคมเปญฯ "ให้เหล้า=แช่ง" การให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่หมดไป เพราะบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังคงช่วงชิงโอกาสทำการตลาด อย่างเข้มข้นในช่วงเทศกาลปีใหม่
และนี่ก็คงเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่เราคนไทยทุกคน จำเป็นต้องร่วมรณรงค์อย่างต่อเนื่องเรื่องดีๆ แบบนี้จะต้องย้ำเตือนความทรงจำกันให้มาก และจะดีมากๆ หากการให้เหล้าในโอกาสต่างๆ หมดไป เพราะนั่นหมายถึงสุขภาพที่ดีของคนไทยที่จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
เพราะฉะนั้น ก็หวังว่าจะมีกระแสกลับมาบอกต่อๆ กันอีกครั้งว่า อย่าให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นของขวัญกันอีกเลย เพราะมันมีแต่เสียกับเสีย คนรับเสียสุขภาพ คนให้ก็เสียเงินเสียทองโดยเปล่าประโยชน์ ขณะเดียวกันก็อยากให้เป็นบรรทัดฐานจำลองของสังคมไทยให้ชัดเจนไปเลยว่า "ให้เหล้า=แช่ง" อย่าไปใส่เหล้าเป็นของขวัญให้กันและกันอีกเลย
แล้วคุณล่ะ พร้อมแล้วใช่ไหมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางที่สดใสนี้ เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ "ปลอดเหล้า" โดยแท้จริง จะให้ของขวัญแก่ใคร เมื่อไหร่ คราวใด ให้นึกถึงเสมอว่า "ให้เหล้า=แช่ง" และยุคนี้ก็ไม่มีใครเขาให้เหล้าเป็นของขวัญกันอีกแล้ว