คุมเข้ม “ปีใหม่” จับผิดจราจรระบบไฮเทค
แอบซิ่ง-ฝ่าไฟแดง ส่งหมายเรียก ปรับ-ตัดแต้มทันที
ตำรวจดีเดย์ 30 ธ.ค. นี้ ติดกล้องจับภาพ 30 แยกทั่วกรุง เผยจับภาพได้คาหนังคาเขา วันรุ่งขึ้นส่งหมายเรียกพร้อมหลักฐานทันที ปรับ 500 บาท แถมถูกตัด 30 แต้ม ลั่นทำผิดซ้ำซากหิ้วตัวเข้าอบรม-ทดสอบความรู้จราจรจึงจะได้ใบอนุญาตขับรถคืน
ตะลึงทดสอบวันเดียวเจอนักซิ่งฝ่าฝืนกว่า 4,500 ราย “มท.” เตรียมแผนป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ เน้นสร้างความพร้อม 3 ระยะ ด้าน “สสส.-สคอ.” จัดสานเสวนาหาทางแก้ไขปัญหาตายหมู่บนท้องถนน วอนสื่อช่วยประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง เปรยที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาไม่เคยสำเร็จ
ที่กระทรวงมหาดไทย วันที่ 11 ธ.ค. นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาด ไทย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีการจัดตั้งศูนย์ และแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยให้จังหวัดดำเนินการตามขั้นตอนเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 วันที่ 1-15 ธ.ค. เป็นช่วงเตรียมความพร้อม วางแนวทาง จัดทำแผนงบประมาณ การดำเนินงานในภาพรวมของจังหวัด
ตามยุทธศาสตร์หลัก 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านวิศวกรรมจราจร ด้านการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน และด้านการประเมินผลและระบบสาร สนเทศ โดยมีการกำหนดตัวบุคคล และหน่วยงานที่รับผิดชอบชัดเจนเพื่อให้สามารถติดตามประเมินผลได้อย่างครบถ้วนถูกต้อง
ปลัดมหาดไทย กล่าวต่อว่า ระยะที่ 2 วันที่ 16-19 ธ.ค. เป็นช่วงปฏิบัติการเข้มข้น ให้ มีการประชุมสรุปผลการเตรียมความพร้อม และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ การบูรณาการตั้งจุดตรวจ เพื่อบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วม
ส่วนระยะที่ 3 คือวันที่ 30 ธ.ค.-5 ม.ค. เป็นช่วงดำเนินการในช่วงเทศกาลปฏิบัติตามแผนดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ระดับจังหวัด อำเภอการตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจร่วมแบบบูรณาการ
การตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน และการตั้งหน่วยสนับสนุนและบริการประชาชนระดับพื้นที่ การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง และการจัดการจราจร เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลให้สัมฤทธิผล
ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมแถลงเปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะมีการติดตามและประมาณสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.-6 ม.ค. 52 พร้อมมีการแถลงข่าวทุกวันเวลา 11.00 น.
ที่ศูนย์ควบคุมสั่งการจราจร (บก.02) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอ.ผบช.น. ดูแลงานจราจร พร้อม พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผบก.จร. ประชุมฝ่ายจราจรระดับรองผกก.-สว.จร.ประจำเดือน ธ.ค.
โดยมีการกำชับการปฏิบัติงาน การรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ และการกวดขันวินัยจราจร หลังจากได้มีการตรวจรับส่งมอบงาน โครงการระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร จากผู้รับเหมางวดสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ต.สุพร ในฐานะประธานตรวจรับมอบงานโครงการฯ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการมา 2 ปี ขณะนี้ระบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทั้งงานติดตั้งกล้องจับภาพผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรตามแยกต่าง ๆ 30 ทางแยก และระบบประมวลผล
หลังจากที่กล้องบันทึกภาพแล้วจะมีการซูมป้ายทะเบียนตรวจสอบข้อมูลผู้ครอบครองรถกับกรมการขนส่งทางบก และส่งหมายเรียกไปที่ที่อยู่ที่แจ้งไว้ ซึ่งจะลดการโต้แย้งของผู้กระทำความผิด และทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า ผู้ที่ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟซึ่งกล้องสามารถจับถ่ายไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ จะมีการตรวจสอบข้อมูลรถที่บันทึกไว้ในวันต่อมาทันที จากนั้นจะส่งหมายเรียกแจ้งกระทำความผิดไปตามที่อยู่ พร้อมกับภาพการกระทำความผิด โดยในหมายเรียกจะมีภาพ 3 ภาพ คือ
1.ภาพรถวิ่งคร่อมบนเส้นหยุดรถหลังจากที่สัญญาณไฟที่แยกเป็นสีแดง
2.ภาพรถผ่านเส้นหยุดรถไปแล้ว ขณะสัญญาณไฟที่แยกเป็นสีแดง
3.ภาพซูมแสดงป้ายทะเบียนรถ ทุกภาพจะมีช่วงเวลาแสดงกำกับ พร้อมทั้งข้อมูล ทะเบียนรถ ชื่อทางแยกที่กระทำผิด ความเร็วขณะวิ่งผ่าน
โดยตามกฎหมายให้สันนิษฐานว่าผู้ที่ขับรถคือผู้ที่ครอบครองรถ และเจ้าของรถจะต้องมารายงานตัว และชำระค่าปรับภายใน 7 วัน ตามสถานที่ที่ระบุไว้ โดยโทษการขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งได้กำชับสั่งการให้ปรับ 500 บาท
นอกจากนี้จะต้องถูกบันทึกคะแนน 30 คะแนน หากทำผิดซ้ำข้อหาภายใน 1 ปี จะต้องเข้ารับอบรมและทดสอบความรู้ด้านจราจร จึงจะได้ใบอนุญาตขับรถคืน
จากการทดสอบระบบเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา จาก 30 ทางแยก มีผู้ฝ่าฝืนกว่า 4,528 ราย แยกที่มีการฝ่าฝืนสูง 5 อันดับแรก คือ 1.แยกโพธิ์แก้ว 2.แยกบ้านแขก 3.แยกโชค ชัย 4 4.แยกนิด้า และ 5.แยกลำสาลี
ระบบดังกล่าว จะทำให้ผู้ขับขี่มีวินัย ระมัดระวังมากขึ้น ลดพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จากการขับรถฝ่าไฟแดงที่มีมากในช่วงเวลากลางคืนให้ลดลง โดย บช.น.จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านป้ายสลับข้อความ และในเว็บไซต์
โดยเริ่มใช้ ระบบกล้องจับรถฝ่าไฟแดง ตั้งแต่ 01.00 น. ของวันที่ 30 ธ.ค.นี้ พร้อมกับการรณรงค์ลดอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ ช่วง 7 วันอันตราย ตั้งแต่ 30 ธ.ค. 51-5 ม.ค. 52 ด้วย
ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน วันเดียวกัน สมาคมนักข่าวฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ รศ.ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ พล.ต.ต.วัฒนา กฤติยะโชติ ผบก.กองพัฒนาการจราจรและบริการประชาชน
ร่วมกันจัดเสวนาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ในการเสวนามีการนำข้อมูลอุบัติเหตุ-สถิติที่เกิดขึ้นทางถนนมาร่วมถกสาเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งนี้มีการเสนอให้สื่อประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าว
เนื่องจากที่ผ่านมาโครงการรณรงค์ของรัฐบาลเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุเป็นโครงการเดียวที่หลายภาคส่วนพบว่า เป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ได้สำเร็จ จึงอยากให้สื่อรณรงค์อย่างจริงจัง มีการวางแบบแผน กระตุ้นเรื่องการประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ จะมีการเสวนาใหญ่สรุปรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อปรับแผน และออกมาตรการรับมือ 7 วันอันตราย ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
update 12-12-51