คุมเข้มกฎหมาย ให้เด็กห่างไกลพนัน

ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐ


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


คุมเข้มกฎหมาย ให้เด็กห่างไกลพนัน thaihealth


แฟ้มภาพ


สสส.-มสช. จัดประชุม “การพนันในยุคเปลี่ยนผ่าน” พบผลศึกษาน่าตกใจ เด็ก 7 ขวบ เริ่มเล่นพนันแล้ว ไพ่มากสุด ขณะคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเปิดกาสิโน-โต๊ะบอลถูกกฎหมาย หนุน คสช.-รบ. ยกเป็นวาระแห่งชาติในการแก้ปัญหา


เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 59 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ในเวทีประชุมวิชาการ เรื่อง “การพนันในยุคเปลี่ยนผ่าน” จัดโดย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลการศึกษาสถานการณ์พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ปี 2558 สำรวจประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป สุ่มตัวอย่าง 26 จังหวัด จำนวน 7,018 ตัวอย่าง พบกลุ่มตัวอย่างอายุน้อยที่สุดเพียงแค่ 7 ขวบ เริ่มเล่นการพนันแล้ว โดยมี 11 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ประเภทการพนันที่เด็ก 7 ขวบเล่นมากสุดคือ ไพ่ ตามด้วย น้ำเต้าปูปลา ไฮโล หวยใต้ดิน และดีดลูกแก้ว ซึ่งมีสัดส่วนเท่ากัน


ขณะที่กว่าร้อยละ 60 เริ่มเล่นการพนันอายุไม่เกิน 20 ปี ประเภทการพนันที่เล่นเป็นครั้งแรก และมากที่สุดคือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ตามมาด้วย หวยใต้ดิน พนันทายผลฟุตบอล ส่วนเหตุผลร้อยละ 89.7 ระบุเป็นการเสี่ยงโชค ร้อยละ 30.5 ระบุเพื่อความตื่นเต้นเพลิดเพลิน และร้อยละ 12.5 ระบุเป็นความชอบส่วนตัว โดยภาคอีสานเล่นพนันมากที่สุด รองลงมา ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคเหนือ และภาคใต้


คุมเข้มกฎหมาย ให้เด็กห่างไกลพนัน thaihealthนอกจากนี้ คนส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 65.4 ไม่เห็นด้วย หากไทยจะเปิดบ่อนกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย สอดคล้องกับอีกร้อยละ 68 ไม่เห็นด้วย ที่ไทยจะเปิดพนันทายผลฟุตบอลอย่างถูกกฎหมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงรัฐบาลในยุคเปลี่ยนผ่าน ควรควบคุมสถานการณ์การเล่นพนันในทุกรูปแบบ ที่สำคัญต้องตระหนักถึงหลักการที่ควรมีในกฎหมาย การบริหารกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม ควรเป็นอิสระจากฝ่ายบริหาร ตรวจสอบได้ และการสนับสนุนกลไกเยียวยาต้องเร่งให้เกิดรูปธรรมชัดเจน


ด้าน นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. สนับสนุนให้มีกลุ่มแผนงานด้านการลดปัญหาจากการพนันตั้งแต่ปี 2553 เพื่อสร้างความรู้ สร้างเครือข่ายขับเคลื่อนให้สังคมตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการพนัน โดยเน้นป้องกันกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนเป็นลำดับต้น และผลักดันให้เกิดนโยบาย กลไกในการจัดการเรื่องการป้องกัน การลดผลกระทบที่เกิดจากการพนัน รวมถึงระบบช่วยเหลือเยียวยาผู้ติดการพนัน


เมื่อดูจากตัวเลขการสรุปคดีที่ขึ้นสู่ศาลของสำนักงานศาลยุติธรรม ปี 2558 คดีการพนันเป็นคดีที่เข้าสู่ศาลชั้นต้นอยู่ในลำดับที่ 3 คือ 76,141 คดี ปัญหาเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันให้ คสช. และรัฐบาล ได้เห็นความสำคัญของปัญหา และกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ มีเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาการพนันอย่างแท้จริง


ขณะที่ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การติดการพนันของเด็กมักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม กลายเป็นพฤติกรรมเสพติด แฝงเร้น พ่อแม่ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหา ส่งผลให้ปล่อยปละละเลย การเข้ารับการบำบัดจึงมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับเด็กติดยา สุรา ซึ่งเด็กและวัยรุ่นเล่นการพนันจะไม่เหมือนผู้ใหญ่ เด็กเล่นคุมเข้มกฎหมาย ให้เด็กห่างไกลพนัน thaihealthเพราะคิดว่าสนุก ซึ่งการเล่นการพนันจะไปกระตุ้นสมองส่วนอยาก มากกว่าสมองส่วนคิด วิจารณญาณ เมื่อสมองส่วนอยากถูกกระตุ้นเรื่อยๆ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมอง จนประสาทสมองส่วนอยากควบคุมการคิดมีแต่อยากเล่น


ทั้งนี้ ต้องมีกฎหมายคุมเข้ม เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อเข้ามาจัดการ เพราะเรื่องการพนันทำลายสังคมอย่างแท้จริง ทำให้เด็กเสียอนาคต ทำลายชาติ ขณะที่รัฐบาลต้องส่งเสริมหลักสูตร เพราะถึงมีชุดความรู้แต่ถ้าไม่มีการดำเนินการในหลักสูตรก็ไม่มีประโยชน์


 

Shares:
QR Code :
QR Code