คำแนะนำสำหรับผู้ที่ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
อยู่บ้าน-หน้ากาก ช่วยลดการแพร่เชื้อ
การดูแลรักษาตนเองที่บ้าน
ผู้ป่วยที่มีสุขภาพแข็งแรงเมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จะมีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ที่พบตามปกติ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ แต่ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 95 มีอาการไม่รุนแรง สามารถหายป่วยได้เอง โดยมีการดูแลตนเอง ดังนี้
1. การดูแลรักษาตนเองที่บ้าน
1) การปฏิบัติตัว
* พักผ่อนให้เพียงพอ (คืนละ 6-8 ชั่วโมง) ไม่นอนดึก
* ดื่มน้ำมาก ๆ
* รับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้และยาลดน้ำมูก หากมีอาการคัดจมูกและมีน้ำมูก
* ห้ามกินยาแอสไพริน
2) การสังเกตอาการตนเอง ให้มาพบแพทย์เมื่อมีอาการ ดังต่อไปนี้
* อาการดังกล่าว ไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน
* ไข้สูง ซึม นอนซม
* อาเจียนมาก รับประทานอาหารไม่ได้
* ไอมาก
* รู้สึกเหนื่อย หายใจลำบาก หอบ
* เจ็บหน้าอกเวลาไอ หรือหายใจทุกครั้ง
**หมายเหตุ อาการต่าง ๆ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าอาจเกิดปอดบวมขึ้น ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนที่พบได้ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ (ทั้งไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่) จำเป็นต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ใหม่อีกครั้ง
2. การป้องกันการติดเชื้อสำหรับสมาชิกในครอบครัวและผู้อื่น
1) ผู้ป่วยต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เป็นเวลา 7 วัน (นับจากวันที่เริ่มมีอาการไข้)
2) ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลถูมือบ่อย ๆ
3) หยุดเรียนหรือหยุดทำงาน และพักอยู่ที่บ้านจนหายป่วย (ประมาณ 3-7 วัน)
4) ใช้กระดาษทิชชูปิดปากและจมูก ทุกครั้งที่ไอ หรือจาม และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิด
3. วิธีการใส่หน้ากากอนามัย ที่ถูกต้อง
1) ล้างมือก่อนใส่และหลังถอดหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
2) สวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปาก โดย
* เอาด้านที่มีขอบลวดอยู่ด้านบน เอาด้านที่มีสีเข้ม (หรือมีลักษณะมันวาวและลื่น) ออกด้านนอก เมื่อสวมเสร็จแล้วให้กดแกนลวดด้านบนแนบกับดั้งจมูกและใบหน้า
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 19 กรกฎาคม 2552
Update 20-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์