คำสัญญาของ ร.๙ ต้นแบบพระสงฆ์สร้างสุขภาวะ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


คำสัญญาของ ร.๙ ต้นแบบพระสงฆ์สร้างสุขภาวะ thaihealth


"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม" คำสัญญาของ ร. 9 ต้นแบบพระสงฆ์จับมือบวรสร้างสุขภาวะให้สังคมไทย


เพราะมีธงนำใจเป็นพระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่าด้วย "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ที่พระองค์ทรงให้ไว้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 5 พฤษภาคม 2493 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์ทรงปฏิบัติตามพระปฐมบรมราชโองการ จนทรงเป็น แบบอย่างในการสร้างสุขภาวะแก่คนทั้งชาติ


ดังนั้น เนื่องในโอกาสอันดีในการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติสมบัติครบ 70 ปี (9 มิถุนายน 2559)  และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุ 84 พรรษา (12 สิงหาคม 2559) รวมถึง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา ในปีเดียวกัน


พระพรหมวชิรญาณกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กทม. ในฐานะพระผู้ใช้พระธรรม หลักปรัชญาท้องถิ่น และศาสตร์ของพระราชา รัชกาลที่ 9 บุกเบิกด้านการศึกษา รักษาพยาบาล ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สาธารณสงเคราะห์ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนในสังคม และสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเชิงรุกนับตั้งแต่ปี 2536 จึงร่วมกับ คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี พระสงฆ์นักพัฒนา  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และ ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำองค์ความรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา จัดทำ "โครงการบทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสุขภาวะสังคม โดยความร่วมมือของ(บวร)" ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงานทั้งสิ้น 3 ปี สิ้นสุดใน ปี 2561


พระครูสุขุมวรรณโณภาส ผอ.ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณ จ.อุบลราชธานี ในฐานะผู้ดูแลโครงการฯ กล่าวว่า โครงการบทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสุขภาวะสังคมฯ เป็นการนำ มิติด้านสุขภาพ สังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และจิตใจ ที่พระพรหมวชิรญาณกรรมการมหาเถรสมาคม พัฒนาด้วยหลักพุทธศาสตร์ผสานกับหลักคิดของพระราชาและหลักปราชญ์ท้องถิ่นไว้ จ.อุบลราชธานี ยาวนานนับยี่สิบปี มาจัดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้เป็นระบบกลายเป็นต้นแบบ ให้ทุกหน่วยงานที่สนใจ สามารถหยิบนำไปใช้สร้างสุขภาวะในลักษณะความร่วมมือของ(บวร) ในพื้นที่หรือชุมชนของตนเอง ขณะเดียวกันก็พัฒนาแกนนำพระสงฆ์รุ่นใหม่ในพื้นที่ ให้กลายเป็นพระนักพัฒนาแกนนำช่วยสร้างสุขภาวะทางสังคมในชุมชนของตนเอง


"ศาสตร์ของพระราชาที่นำมาพัฒนาสร้างสุขภาวะในพื้นที่ ได้น้อมนำแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ซึ่งพบว่าเป็นเครื่องมือรักษาชาติบำรุงชาติ ปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิดให้เด็กเยาวชนและคนในชุมชน จ.อุบลราชธานี ได้เป็นอย่างดี คนที่เข้าร่วมโครงการฯ ก็พิสูจน์ผ่านการปฏิบัติบูชา ได้พบสัจธรรมของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่หาใช่สิ่งอื่นใด แต่หากคือรูปธรรมของความรักอันยิ่งใหญ่ ที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมอบเป็นมรดกชิ้นเอกของแผ่นดิน เป็นมรดกแห่งปัญญา ที่จะปกป้องลูกหลานและประชาชนให้รอดพ้นจากความโง่ ความไม่รู้เท่าทันให้พ้นทุกข์ และมีความสุขจากการพึ่งตนเอง" ผอ.ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณ จ.อุบลราชธานี ระบุ


พระครูสุขุมวรรณโณภาส ยังบอกด้วยว่า โครงการบทบาทพระสงฆ์กับการสร้างสุขภาวะสังคมฯ เป็นการทำงานที่สอดคล้องกับแนวทางและนโยบายของ คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติ (สช.) ที่ได้มอบหมายให้ สำนักงานประสานการพัฒาสังคมสุขภาวะ (สป.พส.) ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมสุขภาวะ ร่วมกับหน่วยงาน และภาคีต่างๆ  ผ่านโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาวะในสังคมไทย  นอกจากนี้  ยังสนองตอบนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันในการดำเนินงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม ปี 2558 ที่ให้ความสำคัญต่อองค์กรภาคประชาสังคม ในการดำเนินการอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนเป็นรูปธรรม


"เป็นความตั้งใจที่จะนำต้นแบบที่มีอยู่นั้น ประสานไปยังเครือข่ายที่ทำงานด้านสุขภาวะเพื่อขยายผลสู่ผืนแผ่นดินภาคอีสานตอนล่างใน จ. ยโสธร จ.อำนาจเจริญ จ.ศรีสะเกษ จ.ร้อยเอ็ด จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ และ จ.กาฬสินธุ์ โดยในปีนี้ถึงปี 2560 ตั้งใจสร้างชุมชนสุขภาวะให้ได้ 46 แห่ง และในปี 2560-2561 อีก 24 แห่ง เพื่อเป็นศูนย์เครือข่ายให้ผู้ที่สนใจมาศึกษาเรียนรู้"ผอ.ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณ จ.อุบลราชธานี ชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายของการดำเนินงานที่สืบเนื่องไปยังอนาคต.

Shares:
QR Code :
QR Code