คาดเด็กไทยอีก20ปี อ้วนเตี้ยแคระแกร็น
เหตุอัดขนมถุงเมินผัก
นพ.สมศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย” ว่าข้อมูลวิจัยในรอบ 12 ปีที่ผ่านมาระหว่างปี 2540-2552 พบว่า เด็กไทยมีระดับเชาวน์ปัญญาและการพัฒนาการสมวัยต่ำลง โดยค่าเฉลี่ยระดับเชาวน์ปัญญาลดลงจาก 91 เหลือ 88 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 90-110 และยังต่ำกว่าระดับ 104 ซึ่งเป็นระดับเชาวน์ปัญญาของเด็กๆ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ปัญหาหลักคือเด็กไทยได้รับโภชนาการที่ไม่เหมาะสม มีผลวิจัยระบุว่า เด็กวัยก่อนเรียนและเด็กวัยเรียนติดอาหารรสหวาน มัน เค็ม กินขนมกรุบกรอบและน้ำอัดลมเป็นประจำเพิ่มขึ้น และเด็กวัยเรียนกินผักเพียงวันละ 1 ช้อนครึ่งเท่านั้น ทั้งที่ควรกินไม่ต่ำกว่าวันละ 12 ช้อนต่อวัน
“ที่น่าตกใจเด็กไทยซื้อขนมกินเฉลี่ยคนละ 9,800 บาทต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาเพียงคนละ 3,024 บาทต่อปี พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลให้เด็กไทยมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการทั้งขาดและเกิน โดยกรมอนามัยคาดว่าในปี 2558 จะมีเด็กอ้วนสูงร้อยละ 20 หรือ 1 ใน 5 ของเด็กวัยก่อนเรียน และ 1 ใน 10 ของเด็กวัยเรียน ทำให้อนาคตเมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ในวัยกลางคนจะเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด”
ด้าน นพ.ณรงค์ สายวงศ์ อุปนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลการศึกษาพบว่าเด็กที่ขาดสารอาหารมีรูปร่างเตี้ยแคระแกร็น เมื่อโตขึ้นจนถึงอายุ 8-10 ปี จะมีสติปัญญาและผลการเรียนต่ำกว่าเด็กที่ไม่เตี้ยแคระแกร็น อีกทั้งจะมีระดับสติปัญญาต่ำและมีความสามารถในการสร้างรายได้น้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับเหมาะสมตามวัย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update: 16-02-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: กิตติยา ธนกาลมารวย