ความสุขอยู่ที่ใด
ในช่วงชีวิตคนเรานั้น ทุกคนคงเคยมีคำถามกับตัวเองว่า เรามีความสุขหรือไม่ มากน้อยเพียงใด อะไรที่จะทำให้เรามีความสุข แต่ละคนคงพยายามที่จะหาความสุขเหล่านั้นว่าซุกซ่อนอยู่ที่ใดหนอ จะได้ไปไขว่คว้ามาอยู่กับเราตลอดไป ใครมีความสุขก็เหมือนมีบ่อน้ำพลังวิเศษที่พร้อมจะให้เราดื่มกินได้ตลอดจนไม่มีวันหมดพลัง และยังยินดีที่จะแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่น
มนุษย์เราโชคดีที่มีวิธีสร้างความสุขได้หลายทาง ลองจินตนาการดูนะคะว่า ตั้งแต่เล็กจนโตเราเคยสัมผัสความสุขจากสิ่งเหล่านี้บ้างหรือไม่ ดูแลตัวเองโดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารสุขภาพ ผ่อนคลายด้วยการนวด ไม่ว่าจะนวดไทย นวดน้ำมันหรืออโรมา ดูหนังฟังเพลงที่หลากหลายแนวไม่ซ้ำซากจำเจ ทั้งสุข เศร้า เหงา ซึ้ง ไม่เว้นแม้แต่แนวตลกหรือสยองขวัญสั่นประสาท
เบื่อหน่อยก็หันมาทำสวน เลิกจ้างแม่บ้านเพื่อให้เราได้มีโอกาสทำงานบ้าน ดูแลลูก เตรียมอาหารให้สมาชิกครอบครัวด้วยตนเอง วันไหนคุยกับคนในบ้านจนหมดมุขก็ชวนกันไปเยี่ยมเพื่อน เที่ยวกับเพื่อนๆกลุ่มต่างๆบ้าง เก็บมุขตลกใหม่ๆจากเพื่อนมาใช้ในบ้าน หรือได้โอกาสเปิดตัวลูกและคู่ชีวิตให้เพื่อนๆ หรือญาติได้ติดตามเป็นระยะๆ
หากรู้สึกว่าทำแต่เรื่องเดิมๆ จนสมองไม่ค่อยพัฒนา ก็ลองสอดส่ายสายตาหาอะไรมาลับสมองเป็นระยะ เช่น อ่านหนังสือที่ชอบ หาความรู้จากสื่อต่างๆ ทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมทั้งเข้ากลุ่มสังคมผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ คุณจะพบว่าเรายังมีศักยภาพที่จะเรียนรู้ได้อีกมากมาย การเรียนรู้ใหม่ๆ ก็ทำให้คนเรามีความสุขได้
นอกจากนี้แล้วความสุขยังหาได้จากกิจกรรมสงบๆ เช่น นั่งสงบ ชมนกชมไม้ เที่ยวสวนสาธารณะ ทำพิธีทางศาสนา ทำสมาธิ ชมงานศิลปะ ชมพิพิธภัณฑ์ ความสุขเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคนที่มีประสบการณ์ตรงเท่านั้น และจะเกิดเป็นประสบการณ์ ความทรงจำที่ดีและยั่งยืน หากมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์สร้างความสุขหลายด้าน และได้ดื่มด่ำประสบการณ์นั้นบ่อยขึ้น
จะเห็นได้ว่าสิ่งที่น่ากังวลสำหรับเด็กและผู้ปกครองในปัจจุบัน คือ การหมดเวลาไปกับการเรียน ทั้งเวลาปกติและเรียนพิเศษ พร้อมกับการให้เล่นเกมเป็นรางวัลที่เด็กต้องคร่ำเคร่งกับการเรียน คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการรับส่งเด็ก หมดเวลาไปกับลูกจนไม่มีเวลาให้ตนเอง และดูเหมือนทั้งผู้ปกครองและเด็กไม่มีเวลา
หากมีวิธีหาความสุขเพียงไม่กี่ช่องทางเท่านั้น ยามที่เกิดวิกฤตการณ์หรือความเครียดในชีวิตจะทำให้เกิดความวิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้าจนถึงกับต้องให้ยารักษา หลายครอบครัวที่ไม่มีความสุขในชีวิตจึงทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยๆ
ความสุขเหล่านี้ต้องไขว่คว้าด้วยตนเอง พ่อแม่ควรจัดตารางเวลาในครอบครัวใหม่ให้สมดุล และเป็นตัวอย่างให้ลูกในการทำกิจกรรมสร้างสุข ควรเป็นกิจกรรมสร้างสุขที่ทำพร้อมสมาชิกในครอบครัว ทำให้ลูกๆ ได้มีประสบการณ์สร้างสุขที่หลากหลายและมีภาพพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขสงบภายในใจลูก
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้วันสุข โดย พญ.ปราณี เมืองน้อย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (ร.พ.เด็ก)