ความปลอดภัยในโรงเรียน ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย

ข่าวการเสียชีวิตของเด็กน้อย ที่ถูกลืมไว้ในรถโรงเรียน แม้จะผ่านไปแล้ว  แต่เชื่อว่า ความหวาดหวั่นของคนที่ต้องมีลูกหลานอาศัยรถโรงเรียน และ ครอบครัวของเด็กน้อยที่เสียชีวิต คงยังมิอาจลบเลือนไปจาก จิตวิญญาณของพวกเขา

เรื่องนี้จึง น่าจะเป็นบทเรียนอันสำคัญสำหรับผู้เกี่ยวข้อง ในการกำหนดนโยบาย แนวทางปฏิบัติที่รัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นที่ผ่านมาอีก

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่างๆ ทั้ง กระทรวงศึกษาธิการ คณะอนุกรรมการสวัสดิศึกษาในสถานศึกษา ผู้บริหารโรงเรียน ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน  ประชุมระดมสมองในประเด็น “ความปลอดภัยในรถโรงเรียน” โดยมี รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้จัดการแผนจัดการความปลอดภัยในเด็ก สสส. และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า หลังจากได้มีการแถลงข่าวเรื่อง ไขทางออก “รถโรงเรียน : รถมรณะ” เพื่อชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงพร้อมแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาไปแล้ว เพื่อให้การทำงานต่อเนื่องจึงได้จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้แต่งตั้ง โรงเรียนบางปลาม้า “สูงสุมารผดุงวิทย์” จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีการบริหารรถโรงเรียนอย่างเป็นระบบ เป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ

“วันที่ 20 มิ.ย.นี้ ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ จะยกเหตุการณ์ วิธีแก้ปัญหา และตัวอย่างการดำเนินงานของโรงเรียนบางปลาม้า “สูงสุมารผดุงวิทย์” นำเสนอต่อที่ประชุมด้วย ซึ่งการจัดการอบรมและเดินทางไปดูตัวอย่างการบริหารโรงเรียนต้นแบบ เป็นช่องทางการดำเนินงานที่ดีให้กับโรงเรียนอื่นๆ ได้ปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน จะได้ไม่เกิดเหตุเศร้าสลดอย่างที่ผ่านอีก” รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าว

สำหรับงบประมาณจัดทำโครงการนำร่อง รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวว่า จะเร่งปรึกษากับทางหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ  สสส. เพื่อให้การดำเนินงานต่อเนื่องต่อไป ให้ประชาชนและทุกหน่วยงานเห็นว่ารถโรงเรียนสามารถบริหารจัดการให้ดีขึ้นเป็นระบบได้ หากมีแบบแผนที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม

นางบุษกร กานต์กำพล อาจารย์ฝ่ายกิจการนักเรียน โรงเรียนบางปลาม้า “สูงสุมารผดุงวิทย์” เล่าแนวคิดการบริหารรถโรงเรียน ว่า ดำเนินการมา 5 ปีแล้ว เริ่มจากการตั้งนโยบาย และเชิญคนขับรถโรงเรียนทั้งหมดมาร่วมประชุม ขอความร่วมมือให้คนขับรถแจ้งรายชื่อนักเรียนโดยสารทั้งหมดกับทางโรงเรียนเพื่อให้ตรวจสอบได้ง่าย จากนั้นจัดตั้งชมรมให้คนขับรถลงทะเบียนเส้นทางพร้อมจำนวนนักเรียน ชื่อผู้ปกครอง และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อให้กับฝ่ายกิจการนักเรียน ซึ่งขณะนี้มีรถที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้งหมด 97 คัน  นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากรถประจำทางให้มาเข้าร่วมชมรมด้วยเพื่อให้การดูแลทั่วถึงยิ่งขึ้น จากนั้นมอบหมายให้ครูประจำชั้นเช็คชื่อนักเรียนทั้งหมดในช่วงเช้าส่งให้ฝ่ายกิจการนักเรียน ซึ่งคนขับรถจะมีใบเช็คชื่อนักเรียนทั้งขึ้นและลงเช่นเดียวกัน มีการจัดประชุมติดตามการดำเนินงานทุกเดือนพร้อมทั้งเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ทั้งด้านการขับขี่รถ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดเหตุร้ายต่างๆ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะถือว่าทั้งหมดนี้คือการร่วมมือกันดูแลเยาวชนที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติร่วมกัน โดยคำนึงว่า หน้าที่สำคัญของครูนอกจากการสอนวิชาให้ความรู้แก่นักเรียนแล้ว การดูแลความปลอดภัยของนักเรียนก็เป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญที่ครูจะต้องทำเช่นกัน

ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง การแก้ปัญหาความปลอดภัยของรถโรงเรียนไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ หากทำได้ ต่อไปเรื่องราวความสูญเสียเช่นนี้ คงจะไม่เกิดขึ้นอีก

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code