คร.ยันไม่พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงอีโคไลจากเยอรมนี

คร.เฝ้าระวังโรคอุจจาระร่วง ชนิดถ่ายมีมูกอุจจาระปนเลือด หรือ อีโคไล ชนิด โอ104 จากเยอรมนี ยันยังไม่พบผู้ป่วยในไทย ย้ำมาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ป้องกันโรค

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค (คร.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีมีข่าวเชื้ออีโคไลระบาดหนักในเยอรมนีพบผู้ป่วยมากกว่า 270 ราย เสียชีวิต 5 รายนั้นว่า เรื่องนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้เตือนประเทศสมาชิกและให้ข้อแนะนำ 4 ข้อ คือ

1. ให้ประเทศสมาชิกเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล

2. ให้ประเทศสมาชิกทำการค้นหาผู้ป่วยและแจ้งให้ทราบ

3. ให้ประเทศสมาชิกเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการ

4. แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการป้องกันโรคและเฝ้าระวังทางสุขาภิบาล

สำหรับประเทศไทย ได้เฝ้าระวังและเตรียมการรับมือเพื่อป้องกันโรคดังกล่าว ดังนี้

1. เฝ้าระวังผู้ป่วยจากต่างประเทศ ณ ด่านป้องกันและควบคุมโรคระหว่างประเทศ เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

2. กรมควบคุมโรคมอบหมายให้สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่และสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เตรียมเฝ้าระวังผู้ป่วยภายในประเทศ ศึกษาและติดตามข้อมูลจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด

3. หากสถานการณ์ในยุโรปยังขยายวงกว้าง เช่น มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น หรือขยายการแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปมากขึ้น กรมควบคุมโรคก็จะขยายมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคเพิ่มขึ้น

“ขณะนี้ยังไม่พบโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล ชนิด โอ104 ซึ่งเชื้อนี้เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นมูกปนเลือด ในรายที่ป่วยรุนแรง อาจมีอาการแทรกซ้อนไตวายได้ โดยทั่วไปโรคนี้สามารถรักษาได้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นพาหะนำโรคต้องรีบไปพบแพทย์ ส่วนการติดต่อจะไม่รวดเร็วเหมือนไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากเป็นการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคจึงจะป่วยได้ แต่สามารถป้องกันทำได้โดยกินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ” นพ.ภาสกร กล่าว

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์astv ผู้จัดการ

Shares:
QR Code :
QR Code