ครูเรือนแพ…หนึ่งเสียงจากครูดีของแผ่นดิน
หากเอ่ยชื่อ “สามารถ สุทะ” ครูแห่งห้องเรียนเรือนแพ อดีตนักกีฬามวยปล้ำทีมชาติที่ผันตัวเองมาเป็น “ครู” โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร อ.ลี้ จ.ลำพูน หลายคนคงจะพอคุ้นหู ได้ยินชื่อคุณครูท่านนี้มาบ้าง เนื่องด้วยจิตวิญญาณของความเป็น “ครู” ที่มีความเสียสละอย่างแท้จริง โดยการสอนลูกหลานชาวประมง เหนือเขื่อนภูมิพลที่ไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือเหมือนเด็กทั่วไป เขาจึงเป็นหนึ่งในครูที่ได้รับ “รางวัลครูสอนดี”จากสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ไปเมื่อเร็วๆนี้
เนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี ครูสามารถ ได้สะท้อนถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเขาว่า ไม่เคยอยากได้อะไรในวันครูเพื่อให้กับตัวเอง เพียงอยากให้สังคมเห็นความสำคัญของครูที่อยู่ในโรงเรียนเล็กๆ ครูในท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกล ครูที่สอนเด็กด้อยโอกาส เพราะครูทุกวันนี้ยังเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมีใครเห็นความสำคัญ ทั้งครูบนดอย ครูที่อยู่ในซอกหลืบต่างๆ ของสังคมซึ่งต่างก็ทำหน้าที่ของครูอย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่แล้ว รวมถึงอยากให้เด็กที่จะเข้ามาประกอบอาชีพครู มิใช่เพียงเป็นครูด้วยการทำมาหากินอย่างเดียว แต่อยากให้เป็นครูทั้งกาย วาจา ใจ เรียกว่า มีจิตวิญญาณของความเป็นครู
“นอกนั้นสิ่งที่อยากเห็น คือ การปลดล็อกเรื่องโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียน 30-40 คน ไม่อยากให้ยุบโรงเรียนเหล่านี้ เพราะแม้ว่าโรงเรียนจะมีขนาดเล็ก นักเรียนน้อย แต่โรงเรียนก็ยังมีความสำคัญต่อชุมชนอยู่”ครูสามารถ บอกพร้อมกับยกตัวอย่างโรงเรียนเรือนแพของเขาว่า โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาห้องเรียนเรือนแพ เป็นโรงเรียนที่มีขนาดเล็กมาก มีนักเรียนเพียง 7-8 คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึง ป.6 แต่ก็จำเป็นต้องมีอยู่ ไม่เช่นนั้นเด็กๆ ก็จะไม่ได้เรียนหนังสือเลย
ครูสามารถ เล่าว่า ตอนนี้อยู่ที่โรงเรียนเรือนแพได้ 8 ปีแล้ว และพยายามทำเต็มที่ที่จะให้เด็กได้รับโอกาสสูงสุดตามความสามารถของตน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ได้เห็นเด็กนักเรียนของตัวเองมีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น เด็กมีคะแนนสอบ NT ดีขึ้นไม่ด้อยไปกว่าเด็กที่อื่น เด็กได้เรียนต่อ มีอาชีพการงาน เป็นคนดีของสังคม ก็น่าจะเป็นความรู้สึกสุขใจและภาคภูมิใจของคนที่เป็นครูทุกคน
ครูสามารถ บอกอีกว่า ครูไม่เคยตั้งความหวังอะไรมากแค่เด็กๆ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ประกอบอาชีพที่ซื่อสัตย์สุจริต สามารถปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้แค่นี้ก็พอใจ และหากย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากจะเริ่มทำอาชีพครูตั้งแต่ครั้งแรกที่เรียนจบที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะก่อนหน้าที่จะมาสอนที่นี่ โรงเรียนบ้านก้อจัดสรรไม่อยากมีใครมาอยู่ เพราะอยู่ไกลมากและต้องนั่งเรือมาอย่างยากลำบาก
“ไม่คิดว่าโรงเรียนจะไกลขนาดนี้ พอได้เห็นเด็กขาดโอกาสเพราะไม่มีครูมาสอน ฐานะครอบครัวก็ยากจน ทำให้สะท้อนชีวิตของตัวเองในวัยเด็กที่ต้องมาบวชเรียน ผมจึงไม่สนใจว่ามันจะอยู่ไกลขนาดไหน สนใจแค่ว่า เด็กพวกนี้ต้องการคนที่จะมาให้โอกาสพวกเข”ครูสามารถเล่า
สุดท้ายครูสามารถ บอกว่า ตอนนี้โรงเรียนมีแพเพิ่มขึ้น และกำลังมีโครงการที่จะขยายแพเพื่อทำเป็นโรงเรียนกินนอน ให้เด็กมีที่พักอาศัย จากเดิมที่นำแพที่ใช้เป็นห้องเรียน นอนตอนกลางคืน พอกลางวันนำมาใช้เป็นห้องเรียน ก็จะมีแพที่ใช้สำหรับพักผ่อนโดยเฉพาะ และแพที่เป็นห้องสมุดลอยน้ำ โดยอยู่ระหว่างการระดมทุนสร้าง ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/groups/430900853611408/
ที่มา : วรรณภา บูชา Team Content www.thaihealth.or.th