คนไทยเป็นโรคจู๊ดๆ ปีละกว่าล้าน

เหตุจากชอบกินไม่สุก

 

แนะคนกินอาหารทะเลควรเลิกพฤติกรรมกินของสุกๆดิบๆ ขณะที่ช่วงหน้าร้อนหลีกเลี่ยงแมงดาทะเล และปลาปักเป้าที่มีพิษถึงตาย…

 

คนไทยเป็นโรคจู๊ดๆ ปีละกว่าล้าน

 

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการบริโภคอาหารทะเลอย่างปลอดภัย ว่า การกินอาหารทะเลอย่างปลอดภัย และได้คุณค่าทางโภชนาการในช่วงนี้ หรือ ช่วงหน้าร้อน  ควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเลจำพวก แมงดาทะเล หรือ ปลาปักเป้า ที่มีพิษ หากขาดความชำนาญในการปรุงหรือประกอบอาหาร อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงควรหันมากินอาหารทะเลประเภทปลา ปู กุ้ง แทน เนื่องจากอาหารทะเลดังกล่าว นอกจากจะได้สารอาหารประเภทโปรตีนแล้ว ยังมีไอโอดีนที่ช่วยป้องกันการขาดสารไอโอดีน มีผลต่อการเจริญเติบโต เสริมสร้างสติปัญญา โดยเฉพาะปลาจะให้สารอาหารประเภทโปรตีนที่ย่อยง่าย และมีไขมันน้อย

 

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า ไขมันในปลาบางชนิดประกอบด้วยกรดไขมันที่ให้ประโยชน์ 2 ชนิด คือ อีพีเอ (eicosapentaenoic acid) ช่วยลดไขมันในเลือดและดีเอชเอ (decosahexaenoic acid) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองและดวงตา ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อภาวะการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด (thrombosis) การกินปลาแทนเนื้อสัตว์เป็นประจำยังมีส่วนช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด โดยเนื้อปลา 1 ช้อน กินข้าวจะให้สารอาหารโปรตีนประมาณ 2.4-3.2 กรัม เท่ากับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น

 

นพ.สมยศ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ผู้ที่นิยมกินอาหารทะเลแบบสดๆ หรือกินสุกๆ ดิบๆ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะการกินแบบสุกๆ ดิบๆ เป็นประจำ อาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ บิด ตามมาได้ ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยาในปี 2552 พบว่า ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงกว่า 1,000,000 ราย โรคอาหารเป็นพิษกว่า 100,000 ราย และโรคบิดกว่า 2,000 ราย

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

 

update 03-02-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code