คนไทยตื่นตัว ล้างมือมากขึ้น

อานิสงส์หวัด09ระบาด

 

คนไทยตื่นตัว ล้างมือมากขึ้น

           ผลสำรวจพบ คนไทยส่วนใหญ่ตื่นตัวดูแลสุขภาพด้วยการล้างมือ หลังเกิดการแพร่ระบาดไข้หวัด 09 อธิบดีกรมอนามัย ชี้  เป็นวิธีการที่ดีที่สุด – ถูกที่สุด

 

           นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ถึงพฤติกรรมการล้างมือของคนไทย ว่า จากการสำรวจในแหล่งชุมชนที่มีผู้สัญจรในกรุงเทพมหานคร (กทม.)  ในปี 2552 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการ ล้างมือก่อนรับประทานอาหารร้อยละ 61.2 และมีการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังเข้าส้วม ร้อยละ 87.4  เป็นผลสืบเนื่องมาจากมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลให้ประชาชนมีการตื่นตัวในการป้องกันสุขภาพตนเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอาหาร น้ำ และสิ่งแวดล้อม

 

           โดยมีการนำเอาอุปกรณ์ต่างๆ มาใช้ในการป้องกันโรค เช่น ผ้าปิดจมูก ถุงมือ หรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย อาทิ สบู่ฆ่าเชื้อ สเปรย์ฆ่าเชื้อ  วิธีที่ดีที่สุดและราคาถูกของการป้องกันโรค คือ การล้างมือ เพราะโรคติดต่อหลายโรคมีมือเป็นเป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนอาจทำให้เสียชีวิต การล้างมือจึงเป็นวิธีการป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและการสัมผัสที่สามารถติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้ จากการสำรวจ ครั้งนี้พบว่า ในสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า และสถานที่ราชการต่างๆ ได้มีการจัดบริการเจลล้างมือให้กับประชาชนด้วย

 

           อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า จากการศึกษาพฤติกรรมการล้างมือของประชาชนภายหลังที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พบว่า การปนเปื้อนของเชื้อโรคในมือ มีปริมาณไม่สูงมาก คิดเป็นร้อยละ 12.1  สอดคล้องกับข้อมูลการสัมภาษณ์ในเชิงพฤติกรรมที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องการล้างมือมากขึ้นถึงร้อยละ 89.2 แต่มีประชาชนบางส่วนถึงแม้จะเห็นความสำคัญของการ ล้างมือ แต่ยังมีวิธีการล้างมือที่ไม่ถูกต้อง คือล้างด้วยน้ำเปล่า ร้อยละ 41.0

 

           ทั้งนี้พฤติกรรมการล้างมือเพื่อสร้างสุขนิสัยที่ดีที่ถูกต้องนั้น ไม่เพียงแค่เฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ เท่านั้น แต่ควรล้างมือจนทำให้ติดเป็นนิสัยด้วยการล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุก ครั้งก่อนและหลังที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทุกครั้ง อาทิ ก่อนและหลังรับประทานอาหาร เตรียมอาหารหรือปอกผลไม้ ก่อนและหลังการใช้ห้องน้ำหรือห้องส้วม หลังการจาม ไอ หรือไปสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หลังทำความสะอาดบ้านและบริเวณบ้าน หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง  สารฆ่าเชื้อในสบู่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้มากที่สุด และพฤติกรรมดังกล่าวจะช่วยลดพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

 

 

Update: 02-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ