คนสารคามฮักชุมชนแก้ปัญหา ‘ขยะ’
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
"แยกขยะเป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่จะทำอย่างไรให้พฤติกรรมนี้กลายเป็นกิจวัตรของผู้คน นั่นคือเป้าหมายปลายทาง เพราะจิตสำนึกเป็นเรื่องที่พูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำให้เขาเห็นต้องผลักดันให้เขาลงมือทำด้วยตัวเอง"
ปัญหาจัดการขยะเป็นปัญหาที่ทุกพื้นที่ต้องเผชิญ รวมถึงจังหวัดมหาสารคาม ที่มีขยะมูลฝอยเพิ่มขึ้นถึงวันละ 960 ตัน หรือกว่าสามแสนห้าหมื่นตันต่อปี (ข้อมูลจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ปี 2556) ที่สำคัญขยะเหล่านี้ยังมีปริมาณตกค้างถึง 630 ตัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี
ซึ่ง "ขยะ" คือภาพสะท้อนชุมชนอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นบ่อเกิดปัญหาในหลายมิติ ทั้งเป็นแหล่งสะสมเพาะเชื้อโรคและพาหนะนำโรคต้นเหตุปัญหาสุขภาพ เศษขยะที่เกลื่อนกลาดย่อมทำให้สภาพแวดล้อมไม่เจริญตาสร้างมลพิษในอากาศ และยังส่งผลต่อปัญหาเศรษฐกิจจากการ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการจัดการขยะ รวมถึงขยะที่กองทับถมจำนวนมากย่อมสะท้อนพฤติกรรมของคนในชุมชน ที่ขาดวินัยและจิตสำนึก
เครือข่ายสภาฮักแพง เบิ่งแญง คนสารคาม จึงจับมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกัน ริเริ่มโครงการ "จัดการขยะมูลฝอยแบบบูรณาการ จ.มหาสารคาม" ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2556 โดยเน้นการสร้างกลไกลจัดการขยะของภาคีในท้องถิ่น ที่ช่วยกัน "ออกแบบ" วิธีการแก้ปัญหาขยะมูลฝอยระดับพื้นที่และระดับจังหวัด โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ "สร้างแนวคิดการแก้ปัญหาขยะต้องเริ่มที่ตัวเอง" นั่นก็คือ "ประชาชน"
การดำเนินโครงการการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วม จากคณะทำงานในหลากหลายท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย ทำให้ได้สะสมบทเรียน ความรู้และประสบการณ์ รวมถึงการสร้างพื้นที่ต้นแบบในการจัดการขยะมูลฝอยอย่างมีส่วนร่วมในมหาสารคาม ซึ่งเกิดพื้นที่รูปธรรมในหลายแห่งด้วยกันทั้งระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และขยายผลสู่ระดับนโยบาย ซึ่งเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2558 จังหวัดมหาสารคามมีมติอนุมัติให้ "การจัดการขยะอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนในจังหวัดมหาสารคาม" เป็นนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพของจังหวัดมหาสารคาม
ตลอดระยะเวลา 2 ปีกับพื้นที่รูปธรรมที่เกิดขึ้น นำมาสู่ห้องเรียนแห่งการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในงาน "รวมพลคนจัดการขยะจังหวัดมหาสารคาม" เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา เป็นการรวมตัวของคนทั้งจังหวัดที่มุ่งมั่นร่วมแก้ปัญหาขยะแบบยั่งยืนครั้งสำคัญ
ดร.โชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าจังหวัด มีนโยบายสนับสนุนแนวคิดการจัดการขยะเองในแต่ละชุมชน เพราะการรณรงค์เรื่องขยะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยสิ่งสำคัญของกระบวนการนี้คือขยะเกิดที่ไหน ชุมชนนั้นควรรับผิดชอบ ซึ่งชุมชนสามารถเลือกดำเนินการปัญหาเองได้ภายในชุมชน แต่หากปัญหาใดไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ก็ควรรวมกลุ่มจัดทำคลัสเตอร์ระหว่างท้องถิ่น โดยจังหวัดมหาสารคามได้มอบหมายให้แต่ละท้องถิ่นในจังหวัดขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวทั้งหมด 170 แห่งเพื่อให้เกิดองคาพยพในการขับเคลื่อนงานลดปริมาณขยะให้เป็น รูปธรรมต่อไป
"ผมอยากบอกท้องถิ่นว่าขยะเป็นทรัพย์สิน ที่อาจจะสามารถสร้างรายได้กลับมาให้ชุมชนได้ในอนาคต แต่อยากเรียนว่าพื้นฐานสำคัญที่สุดของการจัดการขยะ คือทุกคนต้องทำหน้าที่ตัวเอง ในขั้นต้นประชาชนต้องแยกขยะเป็นก่อนจะจัดการด้านอื่น ถือเป็นการลงทุนที่ต่ำที่สุด ส่วนภาคท้องถิ่น ก็ควรออกเทศบัญญัติหรือวางมาตรการและมีแผนการจัดการขยะด้วย จะเป็นทิศทางการทำงานที่ทำได้ง่าย"
ขณะที่ภาพสะท้อนจากมุมคิดของ ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ สสส. กล่าวว่าปัญหาขยะต้องจัดการที่บ้านหรือต้นทางที่ก่อให้เกิดขยะ หลายๆ ที่หากเริ่มจัดการจะเห็นได้เลยว่าขยะลดลง
การจัดการขยะ โดยเริ่มจากการคัดแยกขยะที่บ้านเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้เกิดการรวมกลุ่มทั้งชุมชนขณะเดียวกันอยากให้ภาควิชาการและภาคีที่มีองค์ความรู้เข้ามาช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลความรู้และเติมเข้าไปในชุมชน เพราะการแก้ปัญหาต้องเริ่มจากความรู้และเข้าใจ และสุดท้ายภาคนโยบายเข้ามาช่วยหนุนเสริมการขับเคลื่อนของชุมชน
พร้อมกล่าวว่าการจัดการขยะนอกจากจะช่วยชุมชนมีสุขภาพดีขึ้น และลดค่าใช้จ่ายจากการจัดการในชุมชนได้ ยังเกิดความเข้มแข็งในชุมชนท้องถิ่น จากการที่ภาคประชาสังคมทุกคนจัดการปัญหาด้วยตัวเองได้ ซึ่งจะเป็นรากฐานที่เข้มแข็งในการเขยื้อนเรื่องอื่นๆ ต่อไป
ขณะที่ ศักดิ์เจริญ ภวภูตานนท์ เลขาธิการสภาฮักแพง เบิ่งแญง คนสารคาม ให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้การจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดมหาสารคามยังไม่เป็นที่น่าภูมิใจนัก เพราะยังมีขยะเพียงร้อยละ 9 เท่านั้น ที่กำจัดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ที่เหลืออีก 98,000 ตัน ยังไม่สามารถกำจัดได้อย่างถูกต้อง มีองค์กรปกครองท้องถิ่นอีก 83 แห่งที่ยังไม่มีการจัดการขยะที่เป็นระบบ ขยะเหล่านี้ยังไม่ได้นำกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์แท้จริงและถูกวิธี การจัดการขยะที่ผ่านมาทำให้เกิดกลไกและนักขับเคลื่อนการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วมทุกระดับ
พร้อมกล่าวเสริมว่า แท้จริงแล้ว ในด้านการทำงานของสภาฮักแพงฯ "ขยะ" เป็นตัวเดินเรื่องหนึ่งที่จะช่วยจุดประกายให้เกิดการกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างความร่วมมือร่วมใจของภาคประชาชน ในจังหวัดมหาสารคาม"เป้าหมายหลักของเราคือการทำให้คนมหาสารคามพึ่งตนเองได้ และหันมาดูแลบ้านเมืองตัวเองด้วยความรักและหวงแหน การขับเคลื่อนเรื่องขยะจึงสอดคล้องกับเจตนารมย์ของเรา เพราะใครจัดการขยะได้ย่อมพึ่งตนเองได้ และดูแลท้องถิ่นบ้านเขาเองได้"
หน้าที่ของ สภาฯ คือชวนผู้คนมา ร่วมมือกับทำงานให้ส่วนรวมและท้องถิ่น การหนุนเสริมสิ่งที่ขาด สร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายให้เกิดขึ้น และพยายามส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพของชาวมหาสารคามให้จัดการปัญหาชุมชนด้วยตนเองได้ "แยกขยะเป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่จะทาอย่างไรให้พฤติกรรมนี้กลายเป็นกิจวัตร ของผู้คน นั่นคือเป้าหมายปลายทาง เพราะจิตสำนึกเป็นเรื่องที่พูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำให้เขาเห็น ต้องผลักดันให้เขาลงมือทาด้วยตัวเอง สองปีที่ผ่านมาผมมองว่าการขับเคลื่อนยังอยู่ในระยะขั้นต้น คือการ จุดประกายให้เขาเริ่มรับรู้และเข้าใจ สุดท้ายขยะจะถูกขยายผลไปสู่การสร้างวัฒนธรรม ความรู้สึกนึกคิด จิตสำนึกของคนในท้องถิ่นใหม่ ให้มีวินัยและรับผิดชอบต่อสังคม"
เลขาธิการสภาฮักแพงฯ เอ่ยย้ำ ทิ้งท้ายว่า นี่คือเส้นทางปฏิรูปประเทศไทย ที่ชุมชนทำด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอรัฐธรรมนูญไหนๆ