คนต้นแบบเลิกเหล้า สร้างครอบครัวมีสุข

เอกชัย มิ่งสันเทียะ พ่อเด่นเมืองย่าโม

 

          “ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าค่ายร่วมกิจกรรมครอบครัวสร้างสุข ลูกชวนพ่อเลิกเหล้า จะไม่ดื่มเหล้าเพราะก่อนหน้านี้ดื่มหนักมาก ดื่มทุกวันหลังเลิกงาน เคยนำเงินที่ถูกหวยไปเลี้ยงเหล้าเพื่อนๆ แต่พอตอนจ่ายเงินกลับมากกว่าเงินถูกหวยอีกตั้งเยอะ” ความรู้สึกของนายเอกชัย มิ่งสันเทียะ หรือพ่อเด่นแห่งเมืองย่าโม ที่เข้าค่ายสร้างสุขยอดคุณพ่อเลิกเหล้า ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

คนต้นแบบเลิกเหล้า สร้างครอบครัวมีสุข

          กว่าที่เอกชัยจะเลิกเหล้าได้ เขาเล่าถึงประวัติตัวเองว่า เป็นชาวนครราชสีมาโดยกำเนิด แต่เติบโตที่กรุงเทพฯ เพื่อออกจากบ้านมาสู้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง ตนเองมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ครอบครัวมีอาชีพทำการเกษตรไม่ได้ร่ำรวยอะไร พอเรียนจบชั้นประถมศึกษาตอนปลายจึงเข้ามาหางานทำอยู่ในกรุงเทพฯ และเริ่มมีรายได้ ช่วงนั้นไม่ดื่มแต่เพื่อนร่วมงานก็ดื่มบ้าง จนมาช่วงอายุ 20 ปี ได้ดื่มเหล้าครั้งแรก สาเหตุมาจากถูกหวยได้เงินรางวัลมา 300 บาท เพื่อนที่ทำงานบอกถูกหวยให้ไปเลี้ยง

 

          “จังหวะนั้นก็อยากจะลองดู เห็นเพื่อนรุ่นพี่เขากินกันร้องเพลงรู้สึกสนุกดีจึงอยากลองก็เลยพากันไป ปรากฏว่ากินกันหมดไป 700 บาท ขาดทุนไป 400 บาท ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มดื่มมาตลอดกับเพื่อน ไปเที่ยวร้านอาหารคาราโอเกะแต่ไม่มีผู้หญิงบริการ บางช่วงแถวสถานที่ทำงานจะมีหนังมาฉายปิดวิกบ่อยๆ ก็จะพากันเดินถือเหล้ากินไปตลอดทาง” เอกชัยเล่า

 

          บางทีก็ต้องเขม่นกับวัยรุ่นวัยเดียวกันบ้างแต่ไม่บ่อย จนมาอายุประมาณ 25 ปีก็เริ่มถี่ขึ้น เมื่อพบกับภรรยาก็เป็นช่วงที่ดื่มถี่และหนักขึ้น เลิกงานก็ดื่มกับเพื่อนทุกครั้งก่อนกลับบ้าน บางครั้งดื่มแล้วไหลจนถึงเช้า ภรรยาต้องไปตามกลับบ้านอยู่บ่อยๆ พอเป็นอย่างนี้ถี่ขึ้นทำให้ภรรยารู้สึกน้อยใจ ทำให้คิดว่าถ้าเขากินเหล้าแล้วเราก็ไม่อยู่ ดังนั้น จึงเก็บเสื้อผ้าจะหนีกลับบ้านที่ชัยภูมิ เดินมายืนรอขึ้นรถประจำทาง แต่บังเอิญตนขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพอดี เห็นภรรยาหิ้วกระเป๋ายืนรอรถอยู่ก็เลยถามว่าจะไปไหน และคิดในใจว่าคงจะกลับบ้านแน่นอน ก็เลยบอกให้ภรรยากลับบ้าน

 

          “จำได้ว่าดื่มมานานเหมือนตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบันก็ราว 13-14 ปี ระยะหลังพอดื่มรู้สึกสุขภาพของตัวเองไม่ค่อยดีก็คิดอยากเลิกอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่เลิกเด็ดขาด จนมาวันหนึ่งดื่มกลับมาที่บ้านเข้านอนเลยไม่ได้อาบน้ำเห็นเมียตัวเองบ่นว่าเหม็นก็รู้สึกสงสาร เพราะเมียไม่เคยบ่นและรู้สึกว่าเธอคงจะอดทนไม่ไหว จึงคิดตัดสินใจเลิกเหล้าจริงๆ ประกอบกับเป็นช่วงเข้าพรรษาพอดี จึงตั้งใจว่าใช้ช่วงเข้าพรรษาเป็นจุดเริ่ม”

 

          จากนั้นก็ถูกชักชวนให้เข้าค่ายก็เลยมาไม่ได้คิดอะไร พอเข้าค่ายแล้วมันทำให้เรารู้สึกที่จะเลิกเหล้าอย่างหนักแน่น และให้ความสำคัญกับครอบครัว มันรู้สึกทำให้เรามีจิตสำนึกมากขึ้นและทำให้ตัวเองอยากชวนเพื่อนคนรอบข้างให้เลิกด้วย กลับมาคิดช่วงที่ดื่มอีกที เงินที่หมดไปกลับการดื่มเหล้ามันสามารถมาทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ ไม่อย่างนั้นครอบครัวคงสบายกว่านี้

 

          ดังนั้น ตอนนี้ก็ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเงินทำบ้านให้เสร็จและจะเลิกดื่มไปเรื่อยๆ คนรอบข้างก็เข้าใจ คนที่ดื่มอยู่ก็ไม่มีใครยื่นเหล้าให้กับเราและก็ยินดีที่เราเลิกได้ ส่วนภรรยาบอกว่ารู้สึกดีที่ตนเองเลิกดื่มเหมือนได้สามีคนใหม่และอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป เพราะพ่อแม่ลูกได้มีเวลาพูดคุยกันทำให้ครอบครัวอบอุ่นขึ้น

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 05-03-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code