คณะสงฆ์มหาสารคามรณรงค์ปลอดบุหรี่
แฟ้มภาพ
สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม จัดทำโครงการ "มหาสารคามเมืองปลอดบุหรี่" โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อเป็นการสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ โดยรวมพลังทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ตำรวจ สำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษา เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคาม และคณะสงฆ์ เป็นต้น
มีการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทำงานร่วมกันขับเคลื่อนไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในบ้าน และสถานที่สาธารณะ ไม่ให้ร้านค้าชุมชนฝ่าฝืนกฎหมายขายบุหรี่ให้กับเยาวชน พร้อมกับสร้างค่านิยมใหม่ให้กับเด็กและเยาวชนให้ห่างไกล ลด และเลิกบุหรี่ รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กันไป
นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ในปี 2558 เป็นปีฉลองครบ 150 ปี การตั้งเมืองมหาสารคาม เพื่อสุขภาพที่ดีของพี่น้องชาวมหา สารคาม นับเป็นโอกาสดี จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สูบบุหรี่เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพตนเอง คนในครอบครัวและไม่ทำลายคนรอบข้าง การสูบบุหรี่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจครอบครัว หากเลิกบุหรี่ได้ จะลดรายจ่ายภายในครอบครัวลง มีเงินใช้จ่ายสิ่งจำเป็นในครอบครัวมากขึ้น และคนรอบข้างก็ปลอดภัย
นพ.คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวถึงโครงการดังกล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2554 ในส่วนของจังหวัดมหาสารคาม พบว่าอัตราการสูบบุหรี่ในคนอายุ 15-18 ปี มากถึงร้อยละ 8.73 และพบว่ามีการละเมิดข้อกฎหมายในสถานที่ต่างๆ ถึงสถิติจะไม่สูงนัก แต่ทางจังหวัดมหาสารคาม ก็มีการรณรงค์ตามโครงการมหาสารคามเมืองปลอดบุหรี่ มาตั้งแต่ปี 2557 อย่างต่อเนื่อง คาดหวังว่าจะทำให้การขับเคลื่อนโครงการมหาสารคามเมืองปลอดบุหรี่ประสบผลสำเร็จตามแนวทางที่วางไว้
พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า โครงการนี้จะทำให้ประชากรเมืองมหาสารคาม ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เพราะเมื่อเลิกบุหรี่แล้วโรคภัยต่างๆ ที่มาจากการสูบบุหรี่ก็จะหมดไป มหาสารคามก็จะเป็นจังหวัดที่สะอาดทั้งกายและใจ ทางพระพุทธศาสนาก็คือศีล 5 สามารถนำมาดับได้ เพียงแต่อย่าตกเป็นทาส สามารถเลิกบุหรี่ได้ไม่ยาก เพียงแต่อย่าเอาใจมาไว้ที่ปากเพราะนั่นคือคนโง่ คนติดบุหรี่มาจากความอยากเท่านั้น หากเรามีใจที่มุ่งมั่นต้องการเลิกก็สามารถทำได้เพียงเอาปากไปไว้ที่ใจ คือหากใจเรามุ่งมั่นที่จะเลิกสามารถเลิกได้ทันที นับแต่ได้เริ่มดำเนินโครงการนี้มา ทางคณะสงฆ์เมืองมหาสารคามได้ให้การสนับสนุนเต็มที่ ในการทำให้มหาสารคามเป็นเมืองปลอดบุหรี่
"ในโอกาสที่มหาสารคาม มีอายุครบ 150 ปี ในนามคณะสงฆ์ก็ขอบิณฑบาตญาติโยม นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ขอให้เลิกสูบบุหรี่เถอะเพราะไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้เสียทรัพย์โดยเปล่าประโยชน์ และอาตมาให้นโยบายกับพระสงฆ์ในการบรรยายธรรมต้อง สอดแทรกเรื่องโทษ ของบุหรี่ด้วย และพระอุปัชฌาย์จะอุปสมบทให้ จะต้องถามก่อนว่าสูบบุหรี่ไหม หากสูบอยู่หลังอุปสมบทเป็นพระแล้ว จะเลิกได้ไหม หากเลิกไม่ได้ ก็ไม่สมควรที่จะบวชให้ เพราะวัดทุกแห่งเป็นเขตปลอดบุหรี่เหมือนปลอดเหล้าแล้ว"
ส่วน พระสุทธิธรรมโสภณ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม (ธ) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สมัยยังไม่มีการรณรงค์ถึงพิษภัยการสูบบุหรี่ ญาติโยมมักจะถวายบุหรี่ให้กับพระสงฆ์ด้วย แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว การจะทำให้วัดเป็นเขตปลอดบุหรี่ ย่อมเป็นผลดี ทั้งต่อพระในวัดและญาติโยมที่มาทำบุญ ช่วงระยะเวลาปีเศษที่เริ่มดำเนินการตามโครงการนี้ คณะสงฆ์ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด สำหรับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ก็มีการอบรมไวยาวัจกร อบรมเจ้าอาวาสวัดทุกอำเภอให้ความรู้ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่ เพื่อให้วัดเป็นเขตปลอดบุหรี่เหมือนกับปลอดเหล้าอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาทุกวัดก็ขานรับร่วมรณรงค์ ให้วัดเป็นต้นแบบไม่ให้มีการสูบบุหรี่ภายในวัด
เมื่อทุกภาคส่วนร่วมมือกันผลักดันโครงการมหาสารคามเมืองปลอดบุหรี่อย่างเต็มที่ จะทำให้ตัวเลขการสูบบุหรี่ลดน้อยลงหรือหมดไปในที่สุด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด