ขาปั่นต้องไปนครนายก เมืองจักรยาน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ปัจจุบัน มีคนหันมาสนใจการปั่นจักรยานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะปั่นทางใกล้หรือทางไกล มีการเปิดเส้นทางปั่นจักรยานที่น่าสนใจ ชิกๆ ชิลๆ เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน หนึ่งในนั้นขาปั่นต้องไป จ.นครนายก เป็นอีกจังหวัดที่มีเส้นทางจักรยานโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ ถือเป็นตัวเลือกมาแรงให้นักปั่นลองไปปั่นกันสักครั้ง
จุดเด่นของจักรยานเป็นพาหนะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษและยังช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มีความคึกคัก ซึ่งนครนายกและอีกหลายจังหวัดให้ความสนใจและส่งเสริมกันอย่างจริงจัง โดยในการประชุมโครงการสัมมนาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน เมื่อวันก่อน
สุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน นำปั่นจักรยานด้วยตัวเองเพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยวและใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยสมาชิก ภาคีเครือข่ายเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน ท่าม กลางความสนใจของชาวนครนายกตลอดสองข้างทาง
สำหรับเส้นทางการปั่นในครั้งนี้ ผู้แทนจากท้องถิ่น ณัฐพงษ์ ศิริบุญนายอำเภอเมืองนครนายก ให้ข้อมูลว่า การปั่นจะเริ่มต้นจากภูเขางามรีสอร์ท ผ่านน้ำตกวังตะไคร้ มุ่งหน้าเข้าสู่ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริ มีการจัดสรรพื้นที่กว่า 14 ไร่ ทำเป็นแหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการปั่นในช่วงนี้ต้องใช้ไหล่ทางหรือชิดซ้ายเป็นหลัก มีเนินสูงต่ำบ้างเล็กน้อย เส้นทางปั่นพาไปจนถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในโลก โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จากบริเวณสันเขื่อนแห่งนี้ และยังมองเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองนครนายกได้อีกด้วย การใช้เวลาซึมซับบรรยากาศและถ่ายรูปสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ร่วมกิจกรรม หมุดหมายต่อไปคือ อบต.หินตั้งและวัดเขานางบวช ขาปั่นแวะไหว้รอยพระพุทธบาทจำลองที่ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑป จากนั้นสองน่องปั่นกันไปเรื่อยๆ ผ่าน อบต.สาลิกา เข้าสู่วัดตำหนัก อีกหนึ่งสถานที่พึ่งทางใจ แต่ละคนแวะทำบุญสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนปั่นมุ่งหน้าไปยังเส้นชัยที่ภูเขางามรีสอร์ท รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น27 กิโลเมตร
นอกจากจะปั่นจักรยานชมธรรมชาติแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น น้ำตกวังตะไคร้ น้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง อุทยานพระพิฆเนศ เส้นทางนี้มีความท้าทายอยู่ในระดับต้นๆ เนินไม่ชัน เหมาะสำหรับการทดสอบความสามารถของตัวเอง ควบคู่กับการเก็บเกี่ยวบรรยากาศสวยๆ ฉ่ำๆ เข้าต้นฝนแบบนี้
เหตุผลของการมุ่งพัฒนา จ.นครนายกสู่เมืองจักรยานนั้น สุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ซึ่งนอกจากทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการลดปัญหามลพิษและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองนครนายกให้เติบโตมากขึ้น
"อยากให้คนออกมาใช้จักรยานกันให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปั่นเพื่อสุขภาพ ปั่นในชีวิตประ จำวัน หรือปั่นเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว ถ้ามีคนใช้จักรยานเพิ่มขึ้น พลังของเมืองจักรยานก็จะมากขึ้น นครนายกจะเป็นเมืองจักรยานได้อย่างยั่งยืน" รองปลัด มท. กล่าวด้วยรอยยิ้ม
สำหรับ สสส. หน่วยงานรณรงค์และสร้างองค์ความรู้ ส่งเสริมการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. เล่าให้ฟังว่า เมืองนครนายกมีอากาศที่บริสุทธิ์ มีเลนจักรยานคู่ขนานเลียบไปกับภูเขา สามารถขี่ออกกำลังกายหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย จักรยานนอกจากเป็นทางออกสำหรับการแก้ไขปัญหาการจราจรแล้ว ประชาชนยังมีโอกาสได้ทำกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น โดย สสส.จะช่วยสร้างสื่อการรับรู้ของคนในสังคมให้เห็นความสำคัญของการใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน
ปิดท้ายกันที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่าง มานิตย์ บุญแสน เล่าความประทับใจว่า ปกติชอบปั่นในเส้นทางที่เป็นภูเขาอยู่แล้ว เพราะจะมีทั้งทางเรียบ และขึ้นเนินทางลาดชันในบางช่วง ขณะที่วิวทิวทัศน์สองข้างทางก็ร่มรื่น ส่วนระยะเวลาในการปั่นเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น อยากให้หันมาใช้จักรยานในชีวิตประจำวันกันเยอะๆ ดีกว่าใช้รถยนต์ที่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม
นอกจากการรณรงค์ให้ความสำคัญกับการใช้จักรยานแล้ว จ.นครนายกยังมีเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติอีกมากมาย เชื่อว่าการปั่นจักรยานจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถดึงคนมาเที่ยวนครนายก และพัฒนาไปสู่เมืองจักรยานได้อย่างแท้จริง