“ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร”

ที่มา: แนวหน้า



แฟ้มภาพ


ในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้สิ่งสำคัญคือการประชุมเพื่อเสนอแผนและหามาตรการร่วมกันที่เหมาะสม


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว. มหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการและผอ.ศูนย์อำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เดินทางไปที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานประชุม ศปถ.ครั้งที่ 2/2561 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพร้อมเพรียง


          การประชุมครั้งนี้ เป็นการพิจารณาร่างแผน บูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" มุ่งเน้น 7 มาตรการหลัก อาทิ การลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน การลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนน และการช่วยเหลือ หลังเกิดอุบัติเหตุ พร้อมประเมินความเสี่ยงอุบัติเหตุ ทางถนนในระดับอำเภอ และลดปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทยให้มีความปลอดภัย


          รมว.มหาดไทยระบุว่า ในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้สิ่งสำคัญคือการประชุมเพื่อเสนอแผนและหามาตรการร่วมกันที่เหมาะสม หรือควรมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง เมื่อได้ข้อสรุปจึงจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้วออกเป็นมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ


          หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะลดอุบัติเหตุ ที่เกิดจากตัวบุคคล ซึ่งมีมาตรการรณรงค์ให้คนใช้รถ ใช้ถนนอย่างมีวินัย ปฏิบัติตามกฎจราจร และอีกส่วนคือมาตรการบังคับด้านกฎหมาย โดยจะบังคับใช้ทั้งสองส่วน เพื่อให้อุบัติเหตุลดน้อยลง ทั้งนี้สิ่งที่พอจะเน้นได้และเห็นผลในช่วงที่ผ่านมา คือการให้พื้นที่บูรณาการร่วมกัน มีมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น การกำหนดพื้นที่ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง หรือพื้นที่ที่ห่างไกล ก็จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาช่วย เช่น การตั้งด่านชุมชน เนื่องจากการสูญเสียมักจะเกิดที่ถนนสายรอง และปัญหาหลักก็ยังเป็นการขับขี่มอเตอร์ไซค์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และการดื่มสุรา


        ในปีนี้จะมีการวางมาตรการที่เป็น ยาแรง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ตำรวจมีข้อเสนอเรื่องการจำกัดความเร็วในถนนต่างๆ โดยจะมีการทำเป็นกฎกระทรวง ซึ่งจะเร่งให้ทันในช่วงปีใหม่นี้ ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกส่วนคิดว่าจะทำให้ลดอุบัติเหตุได้ ตนไม่อยากให้ใช้คำพูดว่ายาแรง เนื่องจากทำไมต้องเป็นโรคแล้วใช้ยาแรง ดังนั้นต้องไม่เป็นโรค คือการไม่ต้องทำผิด ต้องให้ทุกคนขับรถอยู่ในระเบียบ มีน้ำใจ ดูแลสภาพรถอย่างไร ถ้าไปเน้นยาแรง ก็ต้องแรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยว ถ้าแรงกว่านี้ จะไม่ไหวกัน


          7 วันอันตรายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมื่อ 28 ธันวาคม 2560 ถึง 3 มกราคม 2561 เกิดอุบัติเหตุ 3,841 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 423 คน ผู้บาดเจ็บ 4,005 คน ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก


          7 วันอันตรายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในอีก 2 เดือนเศษข้างหน้านี้ ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันปัญหาดังกล่าว ซึ่งก็ได้แต่หวังว่ายอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะลดน้อยลงกว่าเดิม


 


         

Shares:
QR Code :
QR Code