ของขวัญจริงใจ ไร้แอลกอฮอล์
สุขใจผู้ให้ อิ่มใจผู้รับ
“เหล้า ทำให้ความดันโลหิตสูง สมองเสื่อม ไตพัง แฮปปี้เบิร์ธเดย์ครับพี่นวย”
“เหล้า ทำให้เป็นโรคตับแข็ง เบาหวาน ขาดสติ เกิดอุบัติเหตุ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ พี่นวย รำลึกถึงพี่ตลอดเวลาครับ”
แต่ละคำพูดที่ปรากฏในงานโฆษณาให้เหล้าเท่ากับแช่ง ล้วนเป็นเรื่องพื้นๆ ที่เราทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าเหล้านั้นมีโทษต่อร่างกายอย่างไร แต่รู้ทั้งรู้…ก็ยังจะซื้อให้กันอีก?…ด้วยเหตุนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ผนึกกำลังกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ผุดแคมเปญรณรงค์ “ให้เหล้า=แช่ง” ขึ้นในปี 2551 เพื่อสร้างกระแสให้ประชาชนไม่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เปรียบเสมือนการหยิบยื่นยาพิษเป็นของขวัญให้กับคนที่เรารัก
ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าว ทำให้คนไทยเริ่มเปลี่ยนทัศนคติในการมอบของขวัญหรือกระเช้าปีใหม่จากกระเช้าเหล้า มาเป็นกระเช้าสุขภาพมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากรายงานการวิจัยโครงการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยต่อเทศกาลวันปีใหม่ 2552 ของเอแบคโพลล์ พบว่า ประชาชนร้อยละ 63.5 มีโอกาสได้รับชมสื่อโทรทัศน์ “ให้เหล้า=แช่ง” และมีความคิดเห็นว่าการให้เหล้าเป็นของขวัญปีใหม่ไม่เหมาะสมถึงร้อยละ 75 โดยให้เหตุผลว่า เหล้าเป็นอันตรายต่อชีวิต ดื่มแล้วขาดสติ ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ทั้งปัญหาอุบัติเหตุ ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาครอบครัว ทำให้เสียหน้าที่การงาน และเป็นการส่งเสริมให้คนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น นอกจากนี้ ประชาชน ร้อยละ 51.0 ยังระบุว่าของขวัญที่อยากให้เป็นของขวัญปีใหม่มากที่สุดคือ ขนม ของหวาน ผลไม้ รองลงมาได้แก่ กระเช้า และการ์ดอวยพร
ไม่เพียงแต่ผู้ให้เท่านั้นที่ไม่ต้องการมอบเหล้าให้ผู้รับ ผู้รับเองก็ไม่ต้องการได้ของขวัญที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่นกัน จากผลสำรวจพบว่า คนไทย 3 ใน 4 หรือร้อยละ 75 ไม่ต้องการรับของขวัญที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนลักษณะของขวัญที่ต้องการจะได้รับ พบว่า ร้อยละ 43.2 ต้องการสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ร้อยละ 37.1 ต้องการสิ่งที่มีค่าต่อความรู้สึก ร้อยละ 33.6 ต้องการของที่ใช้ประโยชน์ในการทำงานได้ ร้อยละ 23.6 ต้องการสิ่งของจำเป็นขั้นพื้นฐาน อาทิ อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค และร้อยละ 23.1 ต้องการของที่ทนทานเก็บไว้ได้นาน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษา สสส. และประธาน สคล. เล่าให้ฟังว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า แอลกอฮอล์ทำให้เกิดโรคมากถึง 60 โรค ตั้งแต่สมองจดปลายเท้าและยังก่อให้เกิดผลกระทบเลวร้ายทันทีทันควัน อาทิ เมาแล้วขับ อุบัติเหตุ และการทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว เป็นต้น
“ที่ผ่านมาคนไทยนิยมให้เหล้าเป็นของขวัญแก่กันเพราะเห็นว่าเหล้าเป็นสินค้าที่มีราคาแพง แต่หลังจากที่เรารณรงค์แคมเปญให้เหล้าเท่ากับแช่ง โดยสะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่า การมอบเหล้าเป็นของขวัญปีใหม่หรือเทศกาลงานบุญต่างๆ ไม่ได้เป็นการอวยพร แต่เป็นการแช่งผู้รับมากกว่า ซึ่งผลการรณรงค์ที่ผ่านมามีความสำเร็จอย่างสูง” ศ.นพ.อุดมศิลป์ เล่าด้วยรอยยิ้ม
จากผลความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้การรณรงค์ในปี 2552 นี้ สสส. และ สคล. ยังคงเน้นเรื่องให้เหล้าเท่ากับแช่ง แต่เพิ่มแนวคิดเสริมให้แข็งแรงมากขึ้น โดยการสร้างทัศนคติให้คนไทยเลือกของขวัญสุขภาพที่มีคุณค่าทางใจ และมีประโยชน์ด้านสุขภาพต่อผู้รับมากขึ้นภายใต้โครงการ “ของขวัญจริงใจ” เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเลือกของขวัญที่มีความหมาย จริงใจ คำนึงถึงสุขภาพและประสงค์ดีต่อผู้รับด้วยใจบริสุทธิ์
เพราะเหล้าไม่ใช่นิยามความรักที่แท้จริง สสส. จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วมกันหานิยามความรักจากใจจริงด้วยชุดของขวัญปลอดเหล้า ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรักแท้และความจริงใจ อย่างชุดของขวัญรวมมิตรความรู้ที่เป็นการหยิบยื่นหนังสือดีๆ ให้แก่คนที่คุณรัก หรือจะเลือกชุดของขวัญสายตาดีรับปีใหม่ โดยการให้กระเช้าผัก-ผลไม้แทนใจ ที่ช่วยบำรุงสมองและสองตาของผู้รับ หรือใครอยากทำเก๋ด้วยการมอบของขวัญที่มีความหมายอย่างชุดของขวัญเรื่องกล้วยๆ ที่ประกอบด้วย กล้วยนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ ที่ผ่านการแปรรูปแล้วทั้งการอบ ตากแห้ง และทอด ซึ่งมีความหมายถึง ขอให้ปีใหม่นี้ เจอแต่เรื่องกล้วยๆ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย งานดี เงินเดินตลอดปี เช่นเดียวกับ ชุดของขวัญครบเครื่องเรื่องหมูๆ ที่ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหมู อย่างหมูแผ่น หมูหยอง ไปจนถึงของที่ระลึกน่ารักๆ สไตล์หมูๆ ซึ่งมีความหมายว่า ขอให้งานยากหมดไป งานหมูๆ เข้ามาแทน
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีชุดของขวัญตาร้อยเงินเป็นล้าน ที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสับปะรด ทั้งแยมสับปะรด น้ำสับปะรด ไปจนถึงสับปะรดอบแห้ง ซึ่งมีความหมายว่า ขอให้ผู้รับมีสายตาที่แหลมคม ว่องไว งานดี เงินคล่อง และลูกน้องอยู่ในโอวาท หรือจะเลือกชุดของขวัญปีใหม่ไร้โรคา ที่ประกอบด้วยชุดยาสามัญประจำบ้าน ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย โลชั่นบำรุงผิว และสมุนไพรแปรรูป ที่มีความหมายว่าขอให้ผู้รับมีสุขภาพที่แข็งแรง หายป่วย ไร้โรคามากวนใจตลอดทั้งปี
แต่หากยังไม่ถูกใจ กังวลว่าผู้รับจะได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่ ลองเดินไปตลอดเลือกซื้อผัก–ผลไม้ หรืออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาจัดใส่กระเช้าออกแบบและจัดวางเองอย่างกิ๊บเก๋ดูก็ได้ บางทีนอกจากผู้รับจะได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่าแล้ว เมื่อเขารู้ว่าของขวัญชิ้นสำคัญนั้นถูกออกแบบมาด้วยฝีมือของผู้ให้เองแล้วละก็ “ของขวัญ” ชิ้นนั้นจะมีค่าขึ้นอีกเป็นกองเลยทีเดียว …แต่สำคัญที่สุดในกระเช้าสุขภาพนี้ต้องไม่มี “เหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ด้วย มิเช่นนั้นก็เท่ากับว่าคุณ “ให้เหล้า=แช่ง” ผู้รับโดยไม่รู้ตัว
มาช่วยกันเลือกซื้อเลือกหา “ของขวัญจริงใจ” ให้แก่กัน ให้ปีใหม่ 2553 เป็นปีที่ความรัก ความจริงใจส่งตรงถึงผู้ให้และผู้รับ ให้สุขใจกันถ้วนหน้า…^^
เรื่องโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th
Update 25-12-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์