ขยายฐาน ‘ต้นทุนชีวิต’ให้เด็กวันนี้คือการแก้ปัญหาในวันหน้า
ความเข้มแข็งและความยั่งยืนที่มั่นคงของประเทศชาติ ย่อมขึ้นอยู่กับคนในชาติความเป็นอยู่และวัฒนธรรมประเพณีของคนในชาติที่เหนียวแน่นนั่นเอง ดังเราจะเห็นได้จากวันตรุษจีนที่เพิ่งจะผ่านไปทุกหย่อมหญ้าบนโลกใบนี้แม้จะห่างไกลกันคนละซีกโลกแต่ความเป็นชนชาติจีนก็มิได้เปลี่ยนแปลงไปจากชนชาติจีนเลย
ประเทศไทยของเราหากมองให้ลึกลงไปถึงวัฒนธรรมประเพณี และพื้นฐานทางจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย ก็มีไม่น้อยไปกว่าชนชาติจีนเท่าไรนัก เพียงแต่ว่า วันนี้ คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการปลูกฝังที่ดี เพื่อให้เป็นต้นทุนของชีวิต ที่มีคุณค่าแก่ตัวเอง เท่านั้นเอง
“ต้นทุนชีวิต” คือ พื้นฐานของการสร้างสังคมเพราะสังคมจะดีได้ ต้นทุนชีวิตของคนในสังคมจะต้องมีมาก และต้องมีการบ่มเพาะมาตั้งแต่เกิด โดยเฉพาะหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคม คือ ครอบครัว ซึ่งเป็นสังคมหน่วยแรกที่จะต้องทำหน้าที่บ่มเพาะ เลี้ยงดูด้วยความรักความเข้าใจรวมทั้งการปลูกฝังสิ่งดีงามจากรากเหง้าของสังคม วัฒนธรรม ประเพณี สิ่งแวดล้อม
การสร้างทุนชีวิตตั้งแต่เยาว์วัยจะเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีที่เด็กจะออกไปใช้ชีวิตภายนอกในขณะที่สิ่งแวดล้อมภายนอก ที่ประกอบด้วย โรงเรียน กลุ่มเพื่อน และชุมชนก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เด็กมีต้นทุนชีวิตที่ดีได้เช่นกัน
นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สสส. และผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า 3 ปีกับความสำเร็จการถอดบทเรียน “ต้นทุนชีวิต”สะท้อนความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนและการบรรลุความสำเร็จของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยเฉพาะมิติทางสังคมและทุนมนุษย์ได้เป็นอย่างดี และยังส่งผลให้ต้นทุนชีวิตเป็นมิเตอร์วัดทั้งทักษะชีวิตและจิตสำนึกในตัวเองและสิ่งแวดล้อม จนกลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ไขสู่ความสำเร็จของชุมชนให้ทำงานเป็นระบบและมีส่วนร่วมสู่การพัฒนาเด็กและเยาวชนของท้องถิ่นด้วยพลังบวก ใน 3 เรื่องเด่น คือ การทำงานอย่างเป็นระบบการสร้างระบบของการทำงานให้เกิดขึ้นในชุมชน และการทำงานอย่างมีส่วนร่วม ที่ดึงเอาทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมทั้งตัวเด็ก ครอบครัว การเรียนรู้ ชุมชนและเพื่อน โดยใช้
วิธีการฟังเสียงประเมิน 360 องศาจากเด็กๆ ในท้องถิ่น ที่จะช่วยชี้เป้าว่าจะพัฒนาเรื่องอะไร ประเด็นไหน
แนวคิดต้นทุนชีวิตไม่มีรูปแบบของกิจกรรมที่สำเร็จรูป หากได้ฐานข้อมูลมาแล้วจะต้องใช้ทรัพยากรทั้งบุคคลภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนากิจกรรม และสิ่งที่จะตามมาทันทีคือชุมชนนั้นจะได้มีโอกาสใช้แนวคิดวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชน มาเป็นการพัฒนากิจกรรมนั้นขึ้นมาที่จะทำให้เกิดความรู้สึกการเป็นเจ้าของเกิดขึ้นทันทีต่อโครงการและกิจกรรมของเขา
สำหรับการใช้มิติพลังบวก ที่เป็นมาตรวัดทั้งทักษะชีวิตและจิตสำนึก ที่สามารถครอบคลุมเด็กทุกช่วงวัย และทุกบริบทที่เด็กใช้ชีวิตอยู่ เพื่อนำมาเป็นฐานข้อมูลในการสังเคราะห์แผน/ยุทธศาสตร์ท้องถิ่นนั้น ทำให้ได้แผนที่ไม่เหนื่อยใจ ไม่ซับซ้อน พัฒนาได้อย่างเป็นระบบ มีทิศทางและครบทั้งปัจจัยเสี่ยง และปัจจัยสร้าง
เวลานี้ การเคลื่อนไหวด้วยมิติพลังบวก ในเวทีโลกเริ่มคุยกันถึงเรื่องพลังบวกเพิ่มมากขึ้น เพราะเขาค้นพบว่าเวลาที่นำปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงมาเป็นตัวตั้ง จะคลี่คลายปัญหาได้เป็นอย่างดีด้วยมิติพลังบวก
ประเทศไทยของเรา ยังคงมีปัญหาทับถมกันอยู่อีกมากมาย แม้จะมีการพยายามคิดที่จะแก้ปัญหานั้นมาด้วยเวลานานนับเป็นสิบปี แต่ก็ดูเหมือนว่า ปัญหาที่ครอบงำอยู่นั้นยังมิได้คลี่คลายลงไป ดังนั้น การสร้างต้นทุนชีวิตให้เกิดขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืนในตัวของเด็กวันนี้จึงเป็นคำตอบที่พอจะมองเห็นได้ว่า ปัญหาที่หมักหมมมานานตั้งแต่ในยุคของผู้ใหญ่วันนี้น่าจะจบสิ้นลงในยุคผู้ใหญ่วันหน้าที่เกิดจากเด็กวันนี้มีต้นทุนชีวิตที่สูงนั่นเอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า