ขยะ…แปลงร่างสร้างสุขจากไร้ประโยชน์เป็นของใหม่เอี่ยม

รู้หรือไม่ ใน 1 วัน คนเมืองจะทำให้เกิดขยะเฉลี่ยต่อคนมากถึง 1.2 กิโลกรัมปัญหาขยะนับวันจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนของประชากร แต่ขยะที่ทุกคนเห็นว่าเป็นสิ่งไร้ค่านั้น สามารถนำมารังสรรค์ให้เกิดประโยชน์และเพิ่มมูลค่าได้ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เปิดตัวกิจกรรม “ขยะแปลงร่าง สร้างสุข” นำของเหลือใช้มา diy (do it by yourself) รวมทั้งปลูกฝังให้ลดการใช้ขยะ การคัดแยก การกำจัดขยะอย่างถูกวิธีด้วยวิธีง่ายๆ เริ่มที่ตัวเราทุกคน

นางเบญจมาภรณ์ จันทรพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการเรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า กิจกรรม “ขยะแปลงร่าง สร้างสุข” เป็นกิจกรรมหมุนเวียน โดยมีแนวคิดว่า “ของเหลือใช้ไม่ใช่ขยะ” มีการให้ความรู้ แนวคิด ไอเดีย เกี่ยวกับการนำของเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ ซึ่งเป็นการสร้างจิตสำนึกและปลูกฝังให้เยาวชนได้รู้จักใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า ซึ่งจากข้อมูลพบว่าประเทศไทยผลิตขยะพลาสติกปีละ 3,000 ล้านตัน เพียง 1 ปี เป็นขวดพลาสติกประมาณ 90% ซึ่งถูกทิ้งไปทุกวัน ขยะเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา หากรู้จักคัดแยก รีไซเคิล ประดิษฐ์มาใช้ประโยชน์ได้จะทำให้ขยะมีคุณค่ามากขึ้น

นางสาวรุจิรา เจริญยิ่ง ผู้บริหาร สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยทำเป็นของใช้ต่างๆ นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังลดจำนวนขยะ ลดภาระให้โลกได้อีกด้วย

กิจกรรม “ขยะแปลงร่าง…สร้างสุข” แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนแรก บ้าน 108 ไอเดีย เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในการนำของเหลือใช้นำกลับมาทำเป็นของที่มีประโยชน์ได้ โซนที่สอง โซนการเรียนรู้ ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้ประเภทขยะ การคัดแยกขยะ วิธีการจัดเก็บ โซนที่สามคือโซนสิ่งประดิษฐ์ จะเป็นการแบ่งกลุ่มและให้โจทย์กับเยาวชน ผู้ชม ที่ร่วมกิจกรรมแรลลี่ จากของใช้ที่ให้ไป เมื่อใช้เสร็จแล้วจะสามารถประดิษฐ์แปลงร่างขยะให้เป็นอะไรได้บ้างตามความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน

ด้านนายณฤต เลิศอุตสาหกูล กูรู นักประดิษฐ์ นักคิด นักเขียน  hoo diy เปิดเผยว่า ไม่ใช่เรื่องยากที่ทุกคนจะใช้ไอเดียมาประดิษฐ์ของจากสิ่งเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์ แถมประโยชน์ที่ได้ยังมีหลายทาง ทั้งประโยชน์จากตัวเอง จะเป็นสิ่งของ เครื่องประดับ ที่ประหยัดไม่ต้องเสียเงินซื้อ และยังเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นได้ เพราะอาจใช้เป็นของขวัญในวาระต่างๆ ก็ได้ หรือแม้ประโยชน์ต่อสังคมที่รวมตัวกันประดิษฐ์สิ่งของ เฟอร์นิเจอร์ให้กับชุมชน โรงเรียนที่ขาดแคลน เป็นการสร้างสุขให้ทั้งตัวเองและผู้อื่น

อยากเชิญชวนคนที่อยู่ว่างๆ อย่าทิ้งเวลาให้เปล่าประโยชน์ หรือสูญเปล่าไป ควรหยิบจับสิ่งที่ตนสนใจมาลองประดิษฐ์ใช้ประโยชน์จากข้าวของเหลือใช้ได้ หรือจะมาร่วมแชร์ไอเดียผ่านเฟซบุ๊ก hoo diy ร่วมด้วยช่วยกันลดปริมาณขยะเพื่อสังคมและโลกของเรา

สำหรับผู้สนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะในรูปแบบแรลลี่ เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กันยายน ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ซ.งามดูพลี เปิดให้ชมวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 10.00-18.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถติดต่อจองรอบล่วงหน้าได้ที่ 08-3098-1804-7 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ขยะสร้างรายได้

นายธนู นาควิจิตร อายุ 73 ข้าราชการบำนาญ เผยว่า เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ช่วงที่ยังสอนหนังสืออยู่ ก็สอนเด็กๆ ให้รู้จักนำของเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นข้าวของต่างๆ นอกจากลดปัญหาขยะแล้วยังช่วยให้บ้านเมืองของเราสะอาดด้วย ประกอบกับความชอบส่วนตัวของคุณลุงที่ชอบประดิษฐ์สิ่งของ พอเกษียณอายุรู้สึกว่าง จึงนำสิ่งของเหลือใช้ต่างๆ มาลองทำ เช่น เครื่องบิน ดอกไม้ โมบาย แจกัน ของโชว์ต่างๆ แล้วนำมาขายที่สนามหลวง 2 โซนกล้วยไม้ ทำเป็นอาชีพสร้างรายได้พอสำหรับเลี้ยงตัวเองได้เพราะขายในราคาไม่แพง ตั้งแต่ราคาชิ้นละ 5-70 บาทเท่านั้น โดยคุณลุงธนูจะมานั่งขายของกับป้าวรรณา ภรรยา ในวันเสาร์-อาทิตย์ ผู้สนใจก็สามารถมาอุดหนุนหรือเรียนวิธีประดิษฐ์ของจากวัสดุเหลือใช้กับคุณลุงได้

เด็กหญิงศวิตากัญพร เมืองทอง น้องเอ๋ยอายุ 9 ปี นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดหนองใหญ่ เล่าว่า หนูเคยเอาของเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นของเหมือนกันค่ะ เคยเอาเสื้อยืดเก่าๆ มาเย็บตกแต่งใหม่ก็จะได้เสื้อตัวใหม่ใส่ค่ะ คิดว่านิทรรศการขยะแปลงร่างดีมีประโยชน์ ให้คนไม่ทิ้งขยะ ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ค่ะ

เด็กหญิงกัญญาณัฐฐ์ วิจิตรแพทย์ น้องขนุน อายุ 10 ปี นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดหนองใหญ่ บอกว่า ที่โรงเรียนหนูเคยสอนให้เอาสิ่งของเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ เป็นของเล่น ของใช้ เช่น เอากระปุกวิตามินมาทำเป็น กระปุกออมสิน การที่เราช่วยลดปริมาณขยะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยค่ะ ช่วยให้ประเทศของเราไม่สกปรก และยังส่งเสริมให้รู้จักการรีไซเคิลค่ะ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์