กุดหว้า กาฬสินธุ์ ชุมชนต้นแบบงานบุญบั้งไฟปลอดเหล้า
เทศบาลตำบลกุดหว้า เดินหน้าสร้างต้นแบบ “บุญบั้งไฟปลอดเหล้า” ด้าน สสส.ปลื้ม คนในท้องถิ่นตื่นตัวร่วมปกป้องพิธีขอฝนอันศักดิ์สิทธิ์จากน้ำเมา พร้อมสร้างค่านิยมที่ดีงามให้แก่เด็กเยาวชน
เมื่อวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา ณ บริเวณสนามหน้าอาคารอุทยานประวัติศาสตร์วัฒนธรรมผู้ไทยบั้งไฟตะไลล้าน จ.กาฬสินธุ์ นางชม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีวัฒนธรรมบุญบั้งไฟตะไลล้าน (ปลอดเหล้า) ประจำปี 2554
โดยมีหน่วยงานเข้าร่วม ประกอบด้วย เทศบาลตำบลกุดหว้า อบต.กุดหว้า บริษัทไทยน้ำทิพย์จำกัด หน่วยงานราชการ สถานศึกษา เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
นางชม้อย วรามิตร กล่าวว่า ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีที่มีความสำคัญต่อชาวอีสานที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษจนมาถึงปัจจุบัน เพราะชาวอีสานส่วนใหญ่เชื่อว่า ประเพณีนี้จะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของฟ้าฝน ข้าวปลาอาหารพืชพันธุ์ธัญญาหาร งอกงามและนำมาซึ่งความผาสุกสนุกสนานรื่นเริง ทำให้ชีวิตมีความหวังเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ใกล้ตัวนอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยสานความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและชุมชนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นงานที่ส่งเสริมให้ประชาชน มีความรักความเอื้ออาทรต่อกัน มีความสามัคคีกลเกลียว มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเปิดโอกาสให้แต่ละชุมชนได้แสดงออกถึงวัฒนธรรมของตนเอง อาทิ วิถีชีวิต ภาษาพูด การแต่งกาย จารีตประเพณี เป็นต้น
ด้าน นายสาริกา อุทรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลกุดหว้า ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานกล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ส่งเสริมให้ประชาชนมีความสามัคคี พร้อมเพรียงและเสียสละ โดยให้เด็กเยาวชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่น ตลอดจนทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะและถาวรวัตถุ สร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน โดยการจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ซึ่งมีกลุ่มอาชีพในเขตเทศบาลตำบลกุดหว้า ร่วมกันจำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น
รวมทั้งเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายของจังหวัด และที่สำคัญเพื่อรณรงค์ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะบุญบั้งไฟเทศบาลตำบลกุดหว้า เป็นต้นแบบบุญประเพณีปลอดเหล้า ที่มีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ให้การสนับสนุนตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา
“ที่ผ่านมาเราได้มีความพยายามใช้มาตรการทางสังคมในการช่วยกันดูแลปกป้องไม่ให้ธุรกิจน้ำเมาเข้ามาทำร้ายเด็กเยาวชนของเรา โดยการรณรงค์ให้ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ รับรู้ถึงโทษของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ และได้มีการจัดอบรมในเรื่องโทษภัยของการดื่มสุราให้กับชาวบ้านอยู่เป็นประจำ แม้บางครั้งอาจไม่ได้จัดรณรงค์โดยตรง แต่เราก็รณรงค์ทางอ้อม คือการแทรกเนื้อหาการรณรงค์เข้าไปในการประชุมหรือการอบรมต่างๆ เพื่อเป็นการย้ำให้คนในชุมชนได้ตระหนักว่าโทษภัยของเหล้านั้นเป็นอย่างไร จนในที่สุดชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ค่อยๆ เลิกเหล้า ทำให้สามารถลดปัญหาการทะเลาะวิวาท และหย่าร้างลงได้มาก” นายสาริกา กล่าว
นายกเทศมนตรี ต.กุดหว้า กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังดัดแปลงสร้างบั้งไฟตะไลที่มีความปลอดภัยมากกว่าบั้งไฟหางแบบที่อื่นๆ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของชาวผู้ไทยที่ต่างออกไปจากอีกหลายพื้นที่ที่ยังตกอยู่ในวังวนของสิ่งมึนเมา เหล้า เบียร์ และอบายมุขอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ขณะที่ นายมานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณชาวผู้ไทยและหน่วยงานต่างๆ ใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้เกิดความตื่นตัวร่วมกันรณรณรงค์ให้งานบุญประเพณีบั้งไฟตะไลล้านปลอดภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้เกิดค่านิยมที่ดีงาม ให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้ โดยคนในท้องถิ่นจัดการตนเอง นับเป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชมและน่านำไปเป็นตัวอย่างเป็นอย่างยิ่งในการทำให้พิธีขอฝนเต็มไปด้วยความตั้งใจและเป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง เพราะเป็นพิธีกรรมที่มีความเชื่อที่เชื่อมโยงกับเรื่องของพระโพธิสัตว์ที่เป็นชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้าด้วย จึงไม่ควรให้น้ำเมาเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง พร้อม กับเป็นการส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวให้สนุกและปลอดภัย อันจะเป็นการกระตุ้นและสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวให้แก่ผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา: เว็บไซต์ astv ผู้จัดการออนไลน์