กินให้ดี…มีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน
ที่มา : เครือข่ายคนไทยไร้พุง
แฟ้มภาพ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคอลลาเจนเป็นสิ่งที่หลายคนรู้จักและมีการนำมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านการดูแลผิวพรรณมาอย่างยาวนาน เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนังที่จะช่วยให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ทำให้มีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนทั้งทาภายนอกและกินบำรุงจากภายในออกมามากมายเพื่อใช้ในการทดแทนคอลลาเจนที่จะสูญเสียไปเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น แล้วการกินอาหารอะไรที่เป็นแหล่งของคอลลาเจนบ้าง และควรกินอย่างไรถึงจะดีต่อร่างกาย เป็นสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ เรามาหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ
คอลลาเจน คืออะไร ?
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% โดยคอลลาเจนจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง (ชั้นหนังแท้ หรือ dermis) ซึ่งการทาครีมทั่วไปจะไม่มีผลถึงคอลลาเจนในผิวหนัง ในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนมากถึง 16 ชนิด โดยชนิดที่เราจะสามารถพบได้บ่อยในร่างกาย คือ
1. คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย ช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น การสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด
2. คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) เป็นชนิดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าชนิดที่ 1 พบมากในกระดูก กระดูกอ่อน และข้อต่อ มีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน
3. คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type III) เป็นชนิดที่มักจะพบในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด
4. คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type V) สามารถพบได้ในบริเวณเดียวกันกับ ชนิดที่ 1 หรือใต้ชั้นผิวหนัง และในเนื้อเยื่อของทารกในระหว่างตั้งครรภ์
จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนกระจายอยู่ทั่วร่างกายของเรา โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการสร้างและสลายคอลลาเจนในปริมาณที่สมดุลกัน แต่เมื่อเรามีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนก็จะลดลงประมาณร้อยละ 1 ต่อปี ในขณะที่อัตราการสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความแข็งแรงของผิวลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเป็นอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า “คอลลาเจนใต้ผิวหนังลดลงก็จะเกิดริ้วรอย” นั่นเอง
หลายคนคงเกิดความสงสัยว่าถ้ากินคอลลาเจนไปแล้วจะมีผลดีอย่างไร ซึ่งมีหลายงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับคอลลาเจนแสดงให้เห็นว่าคอลลาเจนมีประโยชน์ ดังนี้
1. ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้น ความฟู และลดความหยาบกร้านของผิว
2. ทำให้ริ้วรอยที่เห็นได้ชัดดูจางลง
3. ลดการเปราะแตกของเล็บ
4. ช่วยชะลอการสลายของมวลกระดูก เมื่อกินคู่กับแคลเซียมและวิตามินดี
5. ช่วยเรื่องสุขภาพของข้อต่อในกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น ลดอาการปวดข้อต่อ เป็นต้น