กินเหล้าหนัก พักตับครบพรรษา

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 

แฟ้มภาพ

          แคมเปญงดเหล้าเข้าพรรษา ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในปีนี้ หันมาเน้นเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะ "ตับ" อวัยวะเบื้องหลังที่คอยดูแลการกินแอลกอฮอล์ของเรา ในโครงการ "งดเหล้า พักตับ ครบพรรษา" เชิญชวน ลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษาเพื่อให้ตับที่ถูกทำลายได้มีโอกาสฟื้นฟู

          จากเพลง "กินตับ" ของเท่ง เถิดเทิง จึงกลายมาเป็นเพลง "พักตับ" ที่กระตุ้นให้คอทองแดงทั้งหลายงดเหล้าพักตับในช่วง 3 เดือนนี้ ซึ่งจะเห็นผลดีที่เกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน ซึ่ง สสส. ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) แถลงข่าวโครงการดังกล่าว พร้อมร่วมกันกล่าวปฏิญาณตน "งดเหล้าครบพรรษา" ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันก่อน

          ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า สสส.และภาคีเครือข่าย ร่วมกันรณรงค์และขับเคลื่อนโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาจนมาถึงปีที่ 14 โดยมีจุดเริ่มต้นจากการเล็งเห็นถึงปัญหาของแอลกอฮอล์ที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อสังคมอย่างมาก สสส.จึงเริ่มดำเนินงานโดยทำให้คนไทยตระหนักถึงโทษและพิษภัยของการดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้โอกาสทางพุทธศาสนาหรือวัฒนธรรมไทย อย่างเช่น วันเข้าพรรษา ปีแรกมีผู้เข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา 40% งดครบพรรษาเพียง 20% จากทั้งหมด จนมาเมื่อปี 2558 มีผู้เข้าร่วมโครงการถึง 72% และงดเหล้าครบพรรษาเพิ่มขึ้นถึง 32% สำหรับปี 2559 ทาง สสส.และภาคีเครือข่ายตั้งเป้าหมายจำนวนนักดื่มที่สามารถงดเหล้าครบพรรษาเพิ่มขึ้นมาเป็น 40%

          ดร.นพ.บัณฑิตกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ "งดเหล้า พักตับ ครบพรรษา" จะมีการประชา สัมพันธ์ทั้งทางโทรทัศน์, โซเชียลมีเดีย และสื่อบุคคลหรือเครือข่ายงดเหล้าที่มีสมาชิกทุกจังหวัด โดยเน้นการทำงานกับชุมชน การพูดคุย และสร้างความเข้าใจ หลังจากนี้อาจจะมีการจัดงานหลังวันออกพรรษา เพื่อเชิญชวนคนที่งดเหล้าครบพรรษามาร่วมงาน พูดคุย ชื่นชม หรือมอบเกียรติบัตร ถือเป็นการสร้างกำลังใจให้ทุกคน เราเรียกพวกเขาว่า "คนหัวใจหิน"

          ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้ระบุว่า แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของการเกิดโรคกว่า 200 โรค ทั้งยังมีงานวิจัยยืนยันว่า แม้จะดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยก็เพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็ง และที่สำคัญไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สามารถดื่มได้แล้วปลอดภัยต่อร่างกาย

          "สำหรับบางคนการงดเหล้าไม่ครบพรรษาอาจมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะมีคนชักชวน จิตใจไม่แน่วแน่ หรือสภาพแวดล้อมในชุมชนไม่เอื้ออำนวย ทำให้ สคล.ได้มีการวางแผนทำงานกับชุมชนกว่า 700 ชุมชน สร้างชุมชนคนสู้เหล้า เพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในชุมชน ขยายชุมชนเครือข่าย และชูชุมชนต้นแบบ ถ้าหากชุมชนอื่นๆ ต้องการข้อมูล ชุดหนังสือ เพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่ตนเองให้เป็นชุมชนเลิกเหล้า สามารถดาวน์โหลดหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.stopdrink.com" ผู้อำนวยการ สคล.กล่าวชักชวน

          ด้าน นพ.พูลชัย จรัสเจริญวิทยา อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานฝ่ายวิจัย สมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตับมีหน้าที่ขับของเสียต่างๆ ในร่างกายออกมา สาเหตุหลักที่ทำให้ตับถูกทำลายหรือตับอักเสบ คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากการสำรวจข้อมูลการรักษาในปี 2558 พบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ 40% จากทั้งหมด เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์

          "ทุกวันนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามามีบท บาทในชีวิตของคนเราอย่างมาก ดังนั้น หากมีเวลาพักตับหรือหยุดดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยให้ตับที่ถูกทำลายสามารถฟื้นฟูกลับมา แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพตับของแต่ละคนว่ารุนแรงแค่ไหนด้วย การดื่มแอลกอฮอล์จริงๆ แล้วไม่ใช่ให้โทษแค่ตับ แต่ส่งผลกระทบต่ออวัยวะทุกชิ้นส่วนของร่างกาย การหยุดดื่มไม่ใช่แค่ตับที่ดีขึ้น แต่สุขภาพเราก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน" นพ.พูลชัยกล่าว

          ขณะที่ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ หรือ "เท่ง เถิดเทิง" ศิลปินตลกชื่อดัง เจ้าของบทเพลง "พักตับ" เผยว่า โครงการ "งดเหล้า พักตับ ครบพรรษา" เป็นโครงการที่ดี อยากเชิญชวนให้นักดื่มทุกๆ คนเข้าร่วมและหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น ถือเป็นครั้งแรกที่ตนเองได้ร่วมงานกับทาง สสส. ซึ่งประจวบเหมาะกับในขณะนั้นกำลังแต่งเพลง "พักตับ" ซึ่งเป็นบทเพลงที่มีเนื้อหาบอกเล่าเกี่ยวกับการรณรงค์ให้หยุดดื่ม เพื่อให้ตับได้ฟื้นฟู สอดคล้องกับโครงการของ สสส.พอดี

          "ขอเชิญชวนให้คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกคนหันมาเข้าร่วมโครงการ ถือเป็นการทำเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพราะถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง วันหนึ่งจะเป็นเราที่มานอนอยู่โรงพยาบาลเอง ต้องเดือดร้อนคนในครอบครัว เสียเงิน เสียทั้งเวลา หากหยุดได้นอกจากจะได้สุขภาพ เรายังได้มอบความสุขให้ครอบครัวอีกด้วย" เท่ง เถิดเทิง กล่าว

          ทุกคนล้วนมีพลังในตัวเอง หากเราเชื่อมั่น ตั้งจิตใจให้แน่วแน่ ไม่ว่าใครก็สามารถก้าวผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ ไม่ใช่แค่สุขภาพที่ดีขึ้น แต่ครอบครัวก็ได้รอยยิ้มและความสุขกลับคืนมาอีกด้วย