การพัฒนาใจ เรื่องเก่าที่อยากเล่าใหม่

 


การพัฒนาใจ เรื่องเก่าที่อยากเล่าใหม่ thaihealth


แฟ้มภาพ


ปฏิทินถูกเปลี่ยนหน้าอีกครั้งและครั้งนี้มันกำลังบอกเราทุกคนว่าใกล้จะหมดปีอีกแล้วนะคะ หลายคนเชื่อว่าช่วงปลายปีเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทบทวนและประเมินการใช้ชีวิตของตัวเองว่า ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมานั้นเราได้ทำอะไร อย่างไร และบรรลุผลลัพธ์สมดังที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ตลอดจนจะตั้งเป้าหมายชีวิตให้กับตัวเอง และทำให้เป้าหมายนั้นสำเร็จได้อย่างไรต่อจากนี้


ฉันเองก็คือหนึ่งในหลายคนนั้นด้วยและคำตอบที่ฉันชอบค้นหาเสมอก็คือ ในเวลาที่ถูกใช้ไปมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้บ้าง และจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้มาใช้กับตัวเองอย่างไรให้เกิดคุณค่ามากที่สุด ระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมากับคำตอบสำคัญที่ค้นพบและแซงหน้าเรื่องอื่นๆ ทั้งหมดจนอยากนำมาแบ่งปันตรงนี้ก็คือ การที่ตัวเองได้เรียนรู้เรื่องของการ "พัฒนาใจ" ในอีกมิติหนึ่งค่ะ ก่อนจะเล่าต่อขอเกริ่นสักนิดว่า ต้นทางของเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความโชคดีของตัวเองที่ได้รับโอกาสร่วมทีมทำงานในโครงการหนึ่งของกรมสุขภาพจิต ซึ่งได้รับการสนับสนุนดำเนินงานจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


โครงการนี้มีชื่อว่าโครงการพัฒนาองค์กรต้นแบบที่มีการพัฒนาจิตเป็นวิถีและวัฒนธรรมองค์กร หรือเรียกแบบย่อว่า โครงการ MIO (Mindfulness in Organization) คำอธิบายสั้นๆ สำหรับโครงการที่ชื่อยาวมากนี้ก็คือ เป็นโครงการที่จะสร้างองค์กรต้นแบบขึ้นในสังคมไทย ซึ่งนำเรื่องของสติ สมาธิ หรือการพัฒนาจิตนี้มาออกแบบและสร้างระบบการทำงานให้เกิดเป็นวิถีปฏิบัติเป็นค่านิยมร่วมหรือวัฒนธรรมในองค์กรให้ได้


หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจคุ้นเคยกับคำว่า สติ สมาธิ หรือการพัฒนาใจ จนไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งแปลกใหม่อย่างไร และฉันก็เชื่อว่าหลายคนอีกเช่นกัน คงเคยผ่านการเข้าคอร์สฝึกฝนการพัฒนาจิตมามากครั้งบ้างน้อยครั้งบ้าง แต่มิติใหม่ที่อยากพูดถึงก็คือ เพราะโครงการนี้ฉันจึงพบมุมมองสำคัญว่า การที่ใครก็ตามจะพัฒนาใจได้อย่างแท้จริงนั้น ย่อมหมายถึงการที่เขาสามารถฝึกสติได้เหมือนกับการฝึกหัดว่ายน้ำจนเก่ง


มีคำอธิบายหนึ่งซึ่งน่าสนใจมากของ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษาการพัฒนาใจ เรื่องเก่าที่อยากเล่าใหม่ thaihealthกรมสุขภาพจิต ซึ่งท่านเป็นวิทยากรหลักของโครงการท่านได้พูดถึงเรื่องการพัฒนาจิตโดยผสมผสานมุมมองเชิงจิตวิทยาไว้ว่า "สำหรับผู้ที่กำลังฝึกว่ายน้ำอยู่ เมื่อคุณตกน้ำคุณอาจไม่รอด เพราะคุณยังว่ายน้ำไม่เป็น หากคุณว่ายน้ำเป็นแล้วคุณอาจรอด แต่คำถามที่น่าสนใจและชวนให้คิดต่อก็คือ แล้วมีความแตกต่างอย่างไรระหว่างว่ายน้ำเป็นกับว่ายน้ำเก่ง? ในการพัฒนาจิตนั้น


มีระดับของสติอยู่ 3 ความหมาย ระดับแรกคือ สติในฐานะการฝึกปฏิบัติ (Mindfulness as PRACTICES) ระดับถัดมาคือ สติในฐานะที่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการฝึกปฏิบัติหรือเป็นสภาวะจิต (Mindfulness as STATE) และระดับสุดท้าย สติที่เป็นบุคลิกภาพหรือการที่ได้พัฒนาสติจนกลายเป็นคุณลักษณะทางจิตใจประจำตน (Mindfulness as TRAIT) ซึ่งสติทั้ง 3 ความหมายนี้จำเป็นต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง จาก PRACTICES ไปยัง STATE และพัฒนาต่อไปจนกระทั่งถึงขั้นสุดท้ายคือ TRAIT ในที่สุด


เมื่อใดก็ตามที่ทุกคนได้เรียนรู้เรื่องการฝึกสติถึงขั้นนี้ (TRAIT) แล้ว เขาเหล่านั้นก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกทั้งที่วุ่นวายและไม่วุ่นวายได้อย่างสงบ เกิดสภาวะจิตใหม่ที่มีคุณภาพขึ้นคือ ปล่อยวางเป็น ซึ่งหากย้อนกลับไปเชื่อมโยงกับการว่ายน้ำ นั่นเท่ากับว่าเราจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ผ่านการฝึกจนว่ายน้ำเก่ง จนใช้ชีวิตอยู่ในน้ำได้เหมือนกับการอยู่บนบก เพราะเราอยู่กับมันอย่างชำนาญจนผนวกเป็นวิถีชีวิตได้นั่นเอง"


ปัจจุบันเรื่องการพัฒนาใจ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ทางจิตแบบตะวันออกนี้ ได้ถูกส่งผ่านในเชิงจิตวิทยาและความเป็นวิทยาศาสตร์จนเกิดเป็นกระแสและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่บ้านเราเท่านั้น–แต่ในสังคมตะวันตกก็ใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือของการสร้างและพัฒนาคนในระบบต่างๆ ของสังคมอย่างกว้างขวางเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันหรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ


ขณะเดียวกัน ก็เข้าไปช่วยตอบโจทย์เกี่ยวกับความเครียดสะสมทั้งในชีวิตส่วนตัวและในเรื่องการทำงาน ตอบโจทย์เรื่องการให้คุณค่าของความดีงามและจริยธรรมของความเป็นมนุษย์ นำไปสู่การค้นพบคุณค่า ตัวเองและความสุขที่ยั่งยืนในที่สุด สังคมมนุษย์ถือเป็นสนามทดสอบสำคัญสำหรับจิตใจ ใครที่พัฒนาตัวเองได้มากย่อมเปิดใจผู้ฝึกนั้นให้กว้างขวางสู่ความสุขอันแท้จริงในใจตนเองได้โดยไร้เงื่อนไข สามารถ สงบ สมดุล และสนุกกับการใช้ชีวิตมากขึ้น มีความรัก ความเมตตา อคติลดหายไป เป็นเจ้าของจิตที่มีแรงบันดาลใจและมีความสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญที่จะรับมืออย่างมีประสิทธิภาพและเท่าทันกระแสของความเปลี่ยนแปลงที่สลับซับซ้อนและเชี่ยวกรากเช่นที่ "เห็น" และ "เป็น" ของโลกปัจจุบันนี้


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

Shares:
QR Code :
QR Code