กองทัพไทย ไม่กลัวหวัด2009

จับตา ก.ย.-ต.ค. หวั่นระบาดหนัก

 

          เขียนไปคราวที่แล้วบอกย้ำประชาชนคนไทยทั้งประเทศว่าอย่าประมาท

 

          อย่าลืมให้ความสำคัญกับไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ดูเหมือนทำท่าจะซาลงไป

 

          แต่จริงๆ แล้วยังไว้ใจไม่ได้ว่าจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อใดก็ไม่รู้อาจจะปะทุแบบรุนแรงกว่าที่ผ่านมา เพราะตอนนี้เองก็มิได้หมายความว่าจะหายขาดไปเพียงแค่สถิติคนตายเพราะไข้ตัวนี้ลดไปนิดเดียวเอง

 

          จึงต้องเน้นย้ำกันอีกว่า ห้ามประมาทเด็ดขาดในเดือนกันยายน ตุลาคม และเดือนต่อๆ ไป

 

          เรื่องนี้ทหารของชาติยังขานรับขนาดเป็นที่รู้กันว่ารั้วของชาติแข็งแกร่งแค่ไหนเพียงใด ยังหันมาให้ความใส่ใจไม่ประมาทไข้หวัดใหญ่ 2009 เลย

 

          ที่ห้องบรรยายกองบัญชาการกองทัพอากาศ กองทัพไทย 3 เหล่าทัพ กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมกับคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกันควบคุมและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน “รวมพลังกองทัพไทย ต้านไข้หวัดใหญ่ 2009” มีผู้แทนและกำลังพลจากทุกเหล่าทัพเข้าร่วมกว่า 200 คน

 

          พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่งผลกระทบอย่างมากมายต่อสุขภาพจิตและการดำเนินชีวิตของกำลังพล รวมถึงครอบครัว ทั้งยังสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและเศรษฐกิจของชาติ ความร่วมมือของกองทัพไทย และคณะอนุกรรมการฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะร่วมกันรณรงค์ป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงขอประกาศให้ทุกหน่วยงานรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กำลังพล ครอบครัวและประชาชนพื้นทีใกล้เคียงปลอดภัยจากโรคนี้ ซึ่งจะส่งผลให้กองทัพสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

          นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังไม่ยุติลง มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องการรณรงค์ต้องเข้มข้นต่อไปโดยเฉพาะในสถานที่ที่มีประชากรอยู่รวมกันจำนวนมาก ซึ่งหน่วยงานทหารที่มีทหารกองประจำการอยู่รวมกันตลอดทั้งวัน ทำกิจกรรมร่วมกัน หลับนอนอยู่ใกล้ชิดกัน หากมีกำลังพลป่วยการแพร่ระบาดจะเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้น การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด คณะอนุกรรมการฯ จึงร่วมกับ 3 เหล่าทัพ จัดโครงการ “รวมพลังกองทัพไทย ต้านไข้หวัดใหญ่ 2009”

 

          นพ.มงคล กล่าวอีกว่า กองทัพไทยทั้ง 3 เหล่าทัพ มีกำลังพล 440,352 คน ครอบครัวกำลังพล 1,600,000 คน นักศึกษาวิชาทหารทั่วประเทศปีละ 3 แสนคน ผู้เกษียณอายุราชการ และคู่สมรส ไม่น้อยกว่า 4 หมื่นคน ประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการสถานพยาบาลในสังกัดกองทัพ ประมาณ 5 แสนคน ซึ่งมีโรงพยาบาลสังกัดกองทัพทั้งสิ้น 57 แห่งสถานพยาบาลอีก 21 แห่ง โดย สสส. จะสนับสนุนงบฯ ให้ 3 เหล่าทัพ ประมาณ 4 ล้าน 9 แสนบาท เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยมีแผนดำเนินงานใน 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มปกติ ที่จะเน้นการจัดกิจกรรมให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารต่อเนื่อง 2.กลุ่มเสี่ยงในหน่วยที่มีพลทหารกองประจำการ/นักเรียนทหาร อยู่รวมกันจำนวนมากจะมีการตรวจคัดกรองวัดไข้ สอบถามอาการในช่วงเช้าของทุกวัน หากพบผู้ใดมีอาการผิดปกติ จะแยกตัวเพื่อสังเกตอาการ หากวันที่ 2 อาการไม่ดีขึ้น จะนำส่งแพทย์ทันที

 

          “กลุ่มที่ 3.กลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้ น้ำมูกไหล ต้องใส่หน้ากากอนามัย และให้หยุดปฏิบัติงานได้ 1 สัปดาห์ ไม่ถือเป็นวันเวลา แต่ต้องโทรศัพท์รายงานอาการให้ผู้บังคับบัญชารับทราบทุกวัน 4.กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว คนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ทุกหน่วยงานต้องคัดกรอง เพื่อให้ทราบจำนวนและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งมาที่ส่วนกลาง เพื่อให้ทราบสถานการณ์อยู่เสมอ ซึ่งผมมั่นใจว่าแม้จะเป็นโครงการระยะสั้นตั้งแต่เดือน ส.ค. – ธ.ค. นี้ แต่การที่กองทัพไทยให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างแข็งขัน จะป้องกันกำลังพลและประชาชนให้ปลอดภัยจากโรคร้ายได้” นพ.มงคล กล่าว 

       

          เพียงแต่ทุกคนไม่ประมาท ดูตัวอย่างกองทัพไทยไว้ และคิดถึงความห่วงใยของหน่วยงานที่เฝ้ารณรงค์ย้ำเตือนก็จะรักษาความสุขให้ครอบครัวให้สังคมไทยได้แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

Update 22-09-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์